วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2554

บันทึกภูลังกา-XV-จนกว่าจะพบกันใหม่

             ผมเดินเข้ามาที่บ้านพักเพื่อเตรียมตัวเก็บของเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเช้าวันจันทร์หลังจากมีงานเลี้ยงเมื่อคืน เห็นตี๋กับพี่เล็กนอนกันอยู่บนเตียง คุณบัญญัตินอนขดตัวอยู่บนพื้นที่มุมห้องด้านใน ของต่าง ๆ ถูกวางระเกะระกะเต็มห้องไปหมด ตี๋ผงกหัวขึ้นมามองผมแล้วแล้วพูดขึ้นเมื่อคืนเหมือนจะมีฝนตกน่ะพี่หน่อง เค้าเลยเก็บของเข้ามาไว้ที่ห้อง ผมผงกหัวรับทราบและเริ่มเก็บของใช้ส่วนตัวเข้าเป้เสื้อผ้าใบเก่ง จากนั้นก็ไปอาบน้ำ ล้างหน้าให้สดชื่น เช้านี้อากาศสดใสจนผมไม่รู้เลยว่า เมื่อคืนมีฝนตกที่ค่าย ที่ลานกางเต๊นท์ ดร ท๊อป เอกกี้ แชมป์ แอมก็กำลังช่วยกันเก็บเต๊นท์  3  หลังที่พวกเราอาศัยนอนกันมา 2  คืน ผมเข้าไปเก็บของในเต๊นท์เข้าเป้ใบเล็กที่ใช้หนุนหัวนอนจึงรู้ว่าเหล้าที่เตรียมมานั้นเหลือเพียงขวดเดียว จากที่เตรียมมาทั้งหมด 3  ขวด แชมป์ เหล้าไปไหนขวดนึง”  “อ๋อ พี่หน่อง เมื่อคืนผมมาหยิบไปกินกับเพื่อน ๆ น่ะ ผมรับฟังแล้วก็คิดว่าเพื่อน ๆ ของแชมป์น่าจะเป็นปลา ต้อ แอม เอกกี้แน่ ๆ เพราะดูเหมือนว่าเมื่อคืนแชมป์จะประสานงานงานและอำนวยความสะดวกให้กับสาวๆ ชาวค่ายเป็นพิเศษ แต่ผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร เลยแกล้งพูดกับแชมป์ว่า ทำไมไม่เห็นปลุกพี่ไปร่วมวงด้วยล่ะ พี่รอจนหลับไปเลย”  “โธ่ พี่หน่อง ผมปลุกพี่แล้ว แต่พี่ไม่ตื่นน่ะสิ”  แชมป์เอาตัวรอดไปตามสไตล์  และเพราะว่าคุ้นกันมานานผมเลยหัวเราะด้วยความเข้าใจ แก่ ๆ อย่างผม ไปร่วมด้วย บรรยากาศมันจะไม่สดชื่นสมวัย แล้วพาลจะทำให้แชมป์ออกลีลาไม่ได้มากซะเปล่า ๆ จากนั้นผมจึงเดินไปหยิบกล้องถ่ายรูป มาถ่ายรูปรอบ ๆ ลานกางเต๊นท์ กั้ง  แอน เฮง เจย์ กำลังเก็บเต๊นท์หลังใหญ่ ต้อเดินป้วนเปี้ยนไปมาบริเวณนั้นด้วย ผมเลยได้แต่ขมวดคิ้วสงสัย เอ ต้อเค้าพักอยู่แถวนี้ด้วยหรือ ทำไมผมไม่เคยรู้เลย หรือเพราะว่าสนิทสนมกับบั๊ดดี้ทันใดนั้น ภาพงานเมื่อคืนก็ไหลออกมาจากห้วงความคิด เอกกับต้อถูกจับให้เป็นบั๊ดดี้กัน เพราะต่างคนต่างไม่มีบั๊ดดี้เนื่องจากกลับกันไปก่อนแล้ว  หนุ่มกระดุมเดินอวดตุ๊กตาลิงน่ารักที่ได้รับจากน้องหนิง วนไป วนมารอบลานกางเต๊นท์  ข้าง ๆ ตัวก็มีห่อผ้า ซึ่งดุมใช้ผ้าขาวม้าลายขาวสลับแดงห่อและสะพาย ผมดูแล้วคล้าย ๆ ผู้โดยสารที่มาลงจากรถแถวๆ หมอชิต 2 และมองหาแท๊กซี่เพื่อไปเยี่ยมญาติในเมืองกรุง  ส่วนตุ๊กตาลิงกับกระดุม ผมคิดขำ ๆ คนเดียวว่า คล้าย  ๆ  พ่อลิงตัวใหญ่อุ้มลูกน้อยแสนหวงเดินออกมารับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า  “…ร้องเรียกหา ว่ามารับลูกลิง แม่ถูกยิง พ่อลิงมารับไป…” ช่างเข้ากับเพลงลิงทะโมนของพงษ์เทพจริง ๆ ผมยิ้มคนเดียวแบบขัน ๆ แล้วจึงเดินไปบอกดุมว่า ดุม พี่ขอถ่ายรูปหน่อยสิ น่ารักดี”  กระดุมก็รับทราบและตั้งท่าให้ผมเก็บภาพประทับใจ เออ ดู ๆ ดุมกับลิงมันเข้ากันดีเหมือนกันแฮะ

          พอทุกอย่างเรียบร้อย ผมเดินลงจากเนินเพื่อไปทานข้าวเช้าก่อน เห็นบั๊ดดี้  สลึมสลือ โผล่หน้าออกมาจากเต๊นท์แถวๆ อาคารของป่าไม้ เลยร้องทัก อ้าว บั๊ดดี้พี่ ไปทานข้าวกันได้แล้ว” “ค่า พี่บั๊ดดี้ เสียงงัวเงียตอบรับมาเหมือนคนครึ่งหลับครึ่งตื่นจากน้องเกด กระดุมเดินตามผมมาพร้อมพี่เล็ก และตี๋  ผมเพิ่งได้คุยจริง ๆ จังกับดุมเช้านี้เอง วันที่ผ่านมาสิ่งที่ทำให้ผมจำดุมได้คือ 1. ดุมไม่ดื่ม เพราะเข้าพรรษา   2. ผสมปูนใหม่ ปูนยังใช้ไม่ได้   ระหว่างสนทนาดุมบอกผมว่า พี่หน่อง ดุมมีคำสอนหนึ่งจะบอกพี่นะ ดุมใช้ประจำเลย  ถ้าพี่จะทะเลาะกับหัวหน้า ให้ไปกัดกับหมาดีกว่า ผมฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มขำ เพราะดูๆ แล้วดุมน่าจะไปกัดกับหมีดีกว่า เพราะตัวใหญ่แบกน้ำหนักมาก ถ้าไปกัดกับหมา มันจะเป็นการเอาเปรียบหมามากเกินไป 

          เมื่อไปถึงที่ก่อสร้างซึ่งเรียบร้อยสวยงามตามแบบชาวค่าย   ผมเห็นหลาย ๆ คนกำลังเก็บภาพประทับใจ ทุกคนดูแจ่มใส แต่งตัวด้วยเสื้อ ภูลังกาสีขาวตุ่น ๆ แขนยาวสีเขียวอ่อน มีตัวหนังสือปะด้านหน้าว่า สวัสดีภูลังกา แลดูสวยงามทีเดียว  ผมเดินไปกินข้าวที่เตรียมไว้ เช้านี้ไข่เจียวกับหน่อไม้น้ำพริกกะปิ ช่วยให้รู้ว่าอะไร ๆ ก็อร่อยถ้าเรากินกันเวลาหิวมาก ๆ  เมื่อทุกคนกินข้าวเสร็จแล้วก็ทยอยเดินกันไปที่หน้างานเพื่อถ่ายรูปหมู่กันก่อนกลับ  ทันใดนั้นเสียงใส ๆ จากน้องเกดก็มาบอกข้าง ๆ ผมว่า พี่บั๊ดดี้เดี๋ยว เกดขอถ่ายรูปด้วยนะคะ”  “เอาสิผมตอบรับอย่างว่าง่ายเพราะยังไม่มีรูปกับน้องบั๊ดดี้คนนี้เลย เมื่อถ่ายรูปธรรมดาเสร็จ น้องเกด ก็ขอแบบ กระโดดอีก 2 รูป ผมก็ไม่เกี่ยง ทั้ง ๆ ที่การกระโดด อาจะเป็นอันตรายต่อกระดูกในชายสูงวัย   เมื่อได้รูปพอใจแล้ว ผมเห็นเกด เดินไปถ่ายรูปกับ เฮือง พี่ปู  กุ้ง ซึ่งเป็นการกระโดดถ่ายเหมือนกัน ทั้ง 4  คนเมื่อถ่ายเสร็จ เฮือง เดินมาบอกช่างภาพว่า เช็ค เช็ค เช็ค จั๊ม เช็ค จั๊ม ช่างภาพก็งง งง ว่าเฮืองพูดอะไร แต่สุดท้ายก็เข้าใจว่า ขอตรวจดูภาพกระโดดที่เพิ่งถ่ายกันไป ผมงี้ขำน้ำตาไหลเลยกับการสื่อสารของทั้งคู่   เมื่อทุกคนถ่ายรูปจนพอใจแล้ว เราก็มารวมกลุ่มถ่ายรูปหมู่จนเสร็จบนพื้นที่เทเรียบร้อย จากนั้นก็เดินไปรอรถตู้ที่จะมารับที่ถนนด้านล่าง แอนหักกิ่งมะขามป้อมลงไปด้วย นัยว่าจะเอาไปดูที่บ้าน  เมื่อเดินไปถึงถนน พวกเราก็จับกลุ่มถ่ายรูประหว่างรอรถ  ผมเชิญหนูเล็กกับจุ๋มมาถ่ายรูปคู่กันเพราะเห็นแววโพสท่าแล้วใช้ได้ แต่ต้องมีผ้ากันอ้วนปิดขาหนูเล็กนิดหน่อย กลุ่มทอย เอ๊กซ์ แนท เกดขับมอเตอร์ไซด์ลงไปก่อนเป็นกลุ่มแรก จากนั้นก็ป็นพวกเราที่ทยอยกันขึ้นรถตู้ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เริ่มเดินทางกลับบ้าน  ผมนั่งอยู่ด้านหลังรถตู้หันไปมงภูลังกาที่ค่อย ๆ ไกลออกไป ใจหนึ่งก็ดีใจที่งานสำเร็จได้กลับบ้านเสียที แต่อีกใจก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน เพราะก่อนมาผมไม่ได้คาดหวังว่าจะมีความประทับใจที่นี่เท่าไรนัก แต่พอเสร็จงานแล้วทำไมมันเหมือนผมถูกมนต์ขลังของค่ายนี้ครอบงำในจิตใจเข้าจนได้ สงสัยต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนทีเดียวกว่าจะกลับสู่สภาวะ ปกติ 


25 ตุลาคม 2554

ต้นจำปูนหลังบ้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น