ผมเห็นน้องใหม่แบกขาตั้งกล้องเดินลงภู ดูราวกับว่าช่างภาพมืออาชีพ
แต่พอถึงช่วงที่ดินลื่นและชัน ขาตั้งกล้องดังกล่าวก็เป็นไม้เท้าที่ช่วยรักษาสมดุลย์ร่างกายไม่ให้เสียไป
“พรืด พรืด พรืด” เสียงน้องใหม่ไถลไปกับพื้นดินเพราะเสียหลัก หรือจะเพราะน้ำหนักตัวก็สุดจะคาดเดา
แต่ก็ส่งผลให้ใหม่ลงไปนั่งอย่างเรียบร้อยบนพื้นทุกๆ สองร้อยเมตรเลยก็ว่าได้ จากระยะทางที่ลงมา
ใหม่เป็นคนที่ลื่นมากที่สุดจนกางเกงเลอะเป็นสีแดง ผมก็ไม่ต่างกับใหม่ บางครั้งก็ลื่นทั้งๆ
ที่ตัวเองระวังอย่างดีแล้ว พอเห็นทุกคนเหน็ดเหนื่อยมาก ผมเลยหยิบโทรศัพท์มือถือเพื่อเปิดเพลงให้สมาชิกผู้ร่วมเดินลงภูลังกาฟังกันซะเลย
“รถเกือบชนน้อง เพลินมองจอร์นนี่เดินมา…” เสียงเพลงจอร์นนี่ที่รัก ของคุณบุษบาอธิฐานดังขึ้น
น้องแอนซึ่งเดินตามมาด้านหลังก็ร้องคลอไปกับเสียงเพลง บรรยากาศรอบข้างเริ่มครึกครื้นช่วยบรรเทาให้หายเหนื่อยกันไปบ้าง
ใจผมตอนนั้นนึกถึงแต่มะขามป้อมที่ได้กินเมื่อช่วงบ่ายวันวาน ถ้ามีซัก 10 ลูกคงช่วยให้เราทุกคนสดชื่นขึ้น ซึ่งช่วงที่ลงจากภูนั้นพวกเราไมค่อยเหนื่อยกันแล้ว
มีแต่ต้องคอยระวังไม่ให้ลื่นล้มเท่านั้นเอง
พอเดินมาถึงจุดแยกเข้าไปชมน้ำตก
พวกเราอ่อนระโหยโรยแรงกันไปหมด ผมนั่งไปบนพื้นและพูดอะไรไม่ออก
แต่ก็ดีใจที่สามารถเดินกลับลงมาได้โดยปลอดภัย ข้าวเหนียว หมูปิ้ง น้ำคื่มอาร์ เจ
บิ๊กโคล่า ถูกส่งมาให้พวกเราอย่างเร่งด่วน อาหารมื้อนั้นเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในชีวิตมื้อหนึ่งทีเดียว
ผมกินไปก็มองหน้าน้อง ๆ ไป ขำๆ ที่มีน้อง ๆ ที่นั่งใกล้ ๆ พูดขึ้นมาว่ากล่องข้าวน้อยฆ่าแม่
อารมณ์ ณ ตอนนั้นถ้าใครมาแย่งข้างเหนียวหมูปิ้งไป คงจะมีเคือง กินข้าวไปได้ซักพักก็มีเสียงเล็ก ๆ ใสๆ จากสาวน่ารักนางหนึ่งดังมาจากด้านหน้าที่ผมนั่ง
“เดี๋ยวเราจะประกาศบั๊ดดี้นะคะ
เนื่องจากมีผู้หญิงน้อยกว่าผู้ชาย ดังนั้นอาจจะมีผู้ชายได้บั๊ดดี้เป็นผู้ชาย”
น้องจีจี้ประกาศเสียงดังฟังชัด ผมอมยิ้มและหวังว่าจะไมได้บั๊ดดี้เป็น
เอกกี้ ดร ท๊อป แชมป์ แอม ขอเป็นน้องผู้หญิงน่ารัก ๆ ก็พอ จากนั้นจีจี้ก็ค่อย ๆ
อ่านชื่อบั๊ดดี้ทีละคู่ ผมตั้งใจฟังซึ่งเท่าที่จำได้ก็มี “บั๊ดดี้เงี๊ยบพี่กุ้งค่ะ”
สาวหมวยไฮโซที่นั่งข้างๆ ส่งสัญญาณว่าเป้นบั๊ดดี้กับเงี๊ยบ อ๋อ สาวหมวยที่เดินลงมากับเรานั่นเองชื่อกุ้ง
ผมจำเงี๊ยบได้เลยพลอยจำกุ้งได้อีกคน “บั๊ดดี้กระดุมคือหนิงค่า” อ้อ เจ้าน้องตัวใหญ่ๆ ล่ำๆ ที่เมื่อวานเห็นปาดปูนชื่อกระดุม
น้องหนิงผมจำได้เพราะส่งถังปูนให้เมื่อวานในแถว ตอนแรกผมนึกว่าน้องดุมเค้าเป็นนายช่างจริง
ๆ เพราะมาดให้ อุปกรณ์ครบ ปาดปูนเรียบ สั่งผมผสมปูนใหม่ตอนตอนที่ผมยกเอาไปให้เทให้นั่นแหละ
“บั๊ดดี้พี่หน่องนะค้า น้องเกดค่า” เอ
น้องเกดคนไหนหว่า บอกตรงๆ นึกไม่ออกจริง ๆ
รู้ๆ ว่าชื่อเกด แต่ไม่เคยเห็นตัวซักที น้องเกดคะ ชูมือด้วยค่ะ เงียบ
บั๊ดดี้ผมไปไหนล่ะเนี่ย อยากเห็นหน้าแล้วเผื่อจะหายเหนื่อย ปรากฏว่าน้องเกดไปเที่ยวน้ำตก ยังไม่กลับมา เดี๋ยวรอซักพักก็คงเห็นหน้า
ผมนั่งคุยไปกับน้องเอก น้องแชมป์ พร้อมทั้งกินข้าวเหนียวผมูปิ้งไปเรื่อย ๆ ปากก็เคี้ยวข้าวอยู่เต็มปาก
ซักพักมีเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หน้าใสๆ ผมสีทองเดินออกมาจากทางไปน้ำตก พร้อมทั้งชายหนุ่ม
3 คนเดินมาด้วยกัน
ช่างเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยกับบอดี้การ์ดดีแท้โดยเฉพาะน้องแนท ใส่แว่นดำ เจาะหู หน้านิ่งถ้าเผลอไปมองหน้าอาจจะมีเคืองเอาง่าย
ๆ น้องทอย หนุ่มหล่อชาวเหนือ
ที่ผมดูยังไงหน้าก็เหมือนพระเอกหนังจีนฮ่องกง
น้องอีกคนผมจำชื่อเค้าไม่ได้ซะที แต่ถ้าเห็นหน้าแล้วจะนึกออก
พอเห็นหน้าทั้ง 4 คนนั้น น้องจีจี้ก็บอกว่าบั๊ดดี้เค้าเหล่านั้นคือใครกันบ้าง
น้องเกดคงพยักหน้ารับรู้แล้วก็มองมาทางที่ผมนั่งอยู่ ผมก็มองไปพอดีและยิ้มให้
ไม่รู้น้องเกดเค้าจะดีใจและเสียใจดีที่ได้ผมเป็นบั๊ดดี้ แต่ผมยินดีเป็นอย่างมาก เพราะได้น้องน่ารัก ๆ
มาเป็นบั๊ดดี้ เผื่อจะมีขนมอร่อย ๆ มาเสริฟตอนทำงานช่วงบ่ายและตลอดช่วงเวลาที่เหลือของค่ายนี้
แต่ตอนนี้หลังจากกินข้าวกันแล้ว พวกเราต่างขยับขยายกันเพื่อเดินทางไปเที่ยวน้ำตกภูลังกาให้สดชื่นและหายเหนื่อย
โดยที่ไม่รู้เลยว่า ทางลงไปน้ำตกนั้นมันหนักหนาสาหัสกว่าทางขึ้นภูลังกาเมื่อช่วงเช้ามาก
21
ตุลาคม 2554
ต้นจำปูนหลังบ้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น