วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554

บันทึกภูลังกา-VI-ช่วงบ่ายที่แสนยาวนาน

          เสียงเลื่อยยนต์ดังกระหึ่มใกล้ๆ ที่ที่เรากำลังโกยดินไปถมพื้น เพื่อตัดต้นไม้ใกล้ต้นใกล้ ๆ ซึ่งช่วงเช้า ถูกพวกเราขุดดินเพื่อนำไปถมพื้นจนเกือบเข้าไปถึงรากแล้ว  โดยมีน้องๆ ชาวบ้านที่มาช่วยงานเรากำลังใช้เชือกดึงให้ต้นไม้ ล้มไปทิศทางตรงกันข้ามกับพื้นที่เรากำลังถม เปรี๊ยะโครม …” เสียงต้นไม้ล้มกระแทกพื้นดังสนั่น  ผมเหลือบไปเห็นคุณบัญญัติกำลังเก็บภาพนั้นอยู่พอดี  มาแล้วพระเอกของเรา ผมแอบยิ้มขันนิด ๆ ทุกครั้งที่เห็นภาพนี้ เพราะเวลาคุณบัญญัติกำลังทำหน้าที่ช่างภาพดูราวกับว่าเค้าหลุดไปอยู่อีกโลกที่ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง มีสมาธิกับการบันทึกภาพตรงหน้าอย่างเดียว   ไปเอก  แชมป์ ดร  แอมลุยงานต่อให้เสร็จกันเถอะ ผมร้องชวน น้องๆ ให้ออกไปทำหน้าที่ถมดิน ซึ่งยังเหลือไม่มากแล้ว ฝ่ายเงี๊ยบ มิ้ง กุ้ง กั้ง แอน เฮง เจย์  ซึ่งช่วยกันเมื่อเช้าก็เดินออกมาจากร่มไม้พร้อม ๆ กันกับผมและเริ่มถมดินต่อไป   ร้อนว่ะดร  ทำไงดี ผมเริ่มรู้สึกอย่างที่บอกจริงๆ หลังจากถมดินจนเกือบเสร็จ  ตอนนี้เราใช้วิธีนำถุงปุ๋ยมารองดินและยกไปถมพื้นแทนการใช้กระป๋องแล้ว ผมเกือบจะเดินไปพักใต้ร่มไม้หลายครั้งแล้วเหมือนกัน แต่เห็นเจย์กับแอนสองสาวที่ช่วยกันถมดินโดยไม่บ่นซักคำเลยรู้สึกอาย ๆ จึงทำงานต่อไปเรื่อย ๆ ไม่นานนักดรเดินมาหาพร้อมกับมะขามป้อมและเกลือในมือ ซักหน่อยไม๊ครับพี่ เสียงที่คุ้นเคยกันมานานเพราะทำงานกับดรจนรู้นิสัยใจคอทำให้ผมยิ้มออกมาได้และรับมะขามป้อมกับเกลือไปกินเพื่อให้ชุ่มคอ  ชีวิตคนเราบางครั้งก็แปลกอย่างนี้แหละ ของธรรมดาอย่างมะขามป้อมที่ผมแทบไม่เคยมองเลย  พอได้กินวันนั้น เปลี่ยนตัวผมให้กลายเป็นคนเข้มแข็งในสภาวะอ่อนล้าได้อย่างประหลาด ผมหันไปมองแอนกับเจย์ที่กำลังกินมะขามป้อมกันอย่างเอร็ดอร่อย  ก็เข้าใจว่า ความรู้สึกเข้มแข็งสดชื่นที่ผมได้รับจากมะขามป้อม สองสาวก็คงจะได้รับเหมือนผมเช่นกัน  

พอพวกเราถมดินที่พื้นเสร็จแล้ว ผมเดินออกไปพักที่ใต้ต้นไม้เพื่อดูน้องตี๋ที่นั่งซึมเป็นหมาป่วยใต้ต้นไม้ข้าง  เป็นไงตี๋ ไหวป่าว พักก่อนนะ” “ครับพี่”  ตี๋มันคงพูดได้แค่นั้นจริงๆ เพราะดูแล้วไข้ท่าทางจะเล่นงานหนัก จากนั้นช่างที่มาทำการเทพื้น ก็นำเหล็กเส้นไปวางไว้ในพื้นที่ที่เราเพิ่งถมดินเสร็จ  และเตรียมลวดเล็กๆ สำหรับผูกเหล็กเส้นที่มาตัดกันเข้าไว้ด้วยกัน  “มันต้องผูกแบบนี้ ค่อยๆรัดแล้วก็ขมวดปมด้านบน”  น้องมิ้งค์ อธิบายให้เพื่อนๆ มหพันธ์ฟัง งานนี้ผมเลือกที่จะหยิบกล้องถ่ายรูปมาบันทึกภาพเพื่อนร่วมค่ายคนอื่นๆ แทนเพราะอยากจะสงวนแรงไว้เทปูที่จะดำเนินการต่อหลังจากผูกลวดเสร็จแล้ว ลวดผูกไม่พอนะ  นายช่างใหญ่ที่คุมงานเปรยขึ้น คุณบัญญัติรับรู้แล้วก็ถอนหายใจ แต่ก็บอกต่อไปว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็มีมาวันนี้ได้แค่ไหนเอาแค่นั้นก่อนก็แล้วกัน พอมัดลวดเสร็จ มหกรรมการเทพื้นก็เริ่มขึ้น พวกเราทุกคนรอเวลานี้มานานแล้ว เพราะคิดว่างานยาก ๆ เสร็จไปแล้ว งานเทปูนน่าจะง่ายแค่ผสมปูน เทปูนเดี๋ยวก็เสร็จ ซึ่งคุณบัญญัติก็คงคิดไม่ต่างไปจากผม ถ้าเสร็จงานบ่าย โมง เดี๋ยวเราไปเที่ยวน้ำตกภูลังกากันคุณบัญญัติพูดออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเมื่อเห็นพื้นที่จะเทแค่ 1 ใน   3  ของพื้นทั้งหมด เพราะต้องรอลวดผูกมาผูกเหล็กเส้นในวันรุ่งขึ้น แต่เมื่อเริ่มงานเทปูนเข้าจริง ๆ มันไม่ง่ายอย่างนั้นเลย ด้วยความที่พวกเราแทบจะไม่มีประสบการณ์ในการทำงานปูนมาก่อน ทำให้การผสมปูนให้เข้ากันเพื่อให้ได้ปูนมาเทพื้นแต่ละกองสูญเสียเวลาไปมาก งานที่ทำท่าว่าจะเดินไปได้อย่างรวดเร็วกลับช้าลงไปจนผมคิดในใจว่า วันนี้คงไม่ได้ไปเที่ยวน้ำตกตามที่หวังซะแล้ว  “เอ้าจัดแถว”  ผมร้องตะโกนบอกเพื่อน ๆ ทุกคนให้มาเข้าแถวเพื่อรับกระป๋องปูนไปเท เมื่อเอกกับดรให้สัญญาณมายังผม ในแถวผมยืนข้าง ๆ น้องอ๋อย ถัดไปเป็นจุ๋ม ส่วนหนูเล็กยืนใกล้ ๆ  กับที่ผสมปูนพร้อมกับแอน เจย์ ส่วน ดร แอม เอกกี้ แชมป์ช่วยกันผสมปูนให้เข้ากันพร้อมทั้งตักปูนออกไปเทที่พื้น  เอกกี้ขมักเขม้นในการตักปูนใส่กระป๋องเพื่อนำมาส่งต่อให้กับทีมงานค่ายพื่อลำเลียงไปเทพื้นที่ด้านไกลสุดของพื้นที่ พวกเราทำงานกันไปได้ซักพัก เอกกี้เหมือนจะอ่อนแรงลงไปมาก ผมเลยร้องบอกหนูเล็กไปว่า หนูเล็ก ช่วยเชียร์พี่เอกเค้าหน่อย พี่เอกต้องการกำลังใจ หนูเล็กก็น่ารักจริงๆ  ร้องต่อไปอย่างร่าเริงว่า  “พี่เอกสู้ ๆ พี่เอกเก่ง ๆ เอาหน่อย เอาหน่อยพี่เอก ไม่รู้ว่าเอกกี้บ้ายอหรือเพราะแรงใจจากน้องหนูเล็ก กันแน่ แต่ก็มีผลทำให้เอกร้องออกมาดัง ๆ ว่าไอ้ย่ะ เอ้าเฮ้ย ๆ  เฮ้ย เฮ้ย” “แน่ะมันร้องยังกะจะไปเล่นโขนผมนึกในใจโดยไม่ได้พูดออกมา  แต่เอกกี้ก็ตักปูนใส่กระป๋องอย่างรวดเร็ว กระป๋องปูนลำเลียงมายังไลน์ที่รอท่าอยู่แล้วเมื่อมาถึงผม ผมเหวี่ยงแขนกว้าง ๆ ไปรับกระป๋องปูน จากนั้นก็วาดแขนแบบกว้าง ๆ ไปส่งต่อให้น้องอ๋อย น้องอ๋อยคงยังไม่ทันตั้งตัวเลยสะดุดการรับไปนิด ฝ่ายจุ๋มที่ยืนอยู่ถัดไปก็หัวเราะออกมาอย่างขำ ๆ   แต่ก็รับปูนจากน้องอ๋อยส่งให้มิ้งค์ไปเทอย่างรวดเร็ว กระป๋องเปล่าถูกส่งกลับมายัง ต้อ ปลาและเลยมาถึงเฮง กั้ง เพื่อที่จะนำไปให้เอกกี้กับดรตักปูนใส่ เวียนกันไปแบบนี้จนกระทั่งปูนหมดกอง เฮ้อ กว่าจะหมดปูนกองแรก เฮ้อ นอกจากจะไม่ได้ไปเที่ยวน้ำตกภูลังกาแล้ว เป้าหมายที่วางไว้ว่าจะต้องเสร็จ  1  ฝน  3  มันจะเสร็จหรือเปล่าเนี่ย    ผมเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ ยังเพิ่งบ่าย 2 โมงครึ่งเองทั้งที่ในความรู้สึกผมมันน่าจะ 5 โมงเย็นแล้วนะ  ทำไมบ่ายวันนี้มันเหมือนจะยาวนานโดยไม่สิ้นสุดซะที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น