วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2554

บันทึกภูลังกา-X- ภูนม ภูลังกา

              บนภูนมคุณบัญญัติพร้อมกล้องนิคอนคู่ใจบนขาตั้ง กำลังบรรจงถ่ายรูปเพื่อน ๆ ชาวค่ายและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม  ผมกับเอกก็ตระเวณถ่ายรูปตามมุมต่าง ๆ โดยเป็นเอกซะมากกว่าที่โพสท่าเป็นนายแบบ ส่วนผมต้องรับหน้าที่เป็นช่างกล้องหน้าตาดีไป ขาผมเริ่มรู้สึกคันๆ เพราะถูกหญ้าบนภูบาดหลายแห่ง  แต่ความงามบนภูนมก็ทำให้ผมลืมแทบทุกอย่าง  ไกลออกไปบนภูลังกา กลุ่มเมฆหมอกลอยมากระทบยอดภูเป็นระยะๆ อากาศเย็นพร้อมละอองน้ำ เริ่มจับไปตามเส้นผม เสื้อผ้าเปียกชื้นจนรู้สึกได้  “นี่แหละที่ผมค้นหามาทั้งชีวิต พี่หน่องเอกพูดขึ้นเมื่อเราทั้งคู่กำลังเดินลงมาจากภูนม ผมอยากให้น้องนัทได้มาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ด้วยกันเอกกล่าวถึงน้องคนหนึ่งที่เคยได้ร่วมงานกันมาและลาออกจากบริษัทไปทำงานร้านทองที่สระบุรี ผมก็รู้สึกแบบเดียวกับที่เอกกล่าวมา เพียงแต่วัยผมอาจจะล่วงเลยมามากจนดูไม่เหมาะกับการขึ้นเขาลงห้วยอีกแล้ว มีแต่ใจเท่านั้นแหละที่จะสู้หรือถอย ซึ่งวันนี้ผมเลือกที่จะสู้   เมื่อรู้ว่าแอม แอบปลีกตัวไปกับกลุ่มสาว ๆ แล้ว ผมกับเอกกี้เลยต้องเดินขึ้นภูลังกาไปกันสองคน ผมเจอโต้ง ตรงทางแยกขึ้นภูนมกับภูลังกาเลยได้โต้งถ่ายรูปให้และชวนกันขึ้นยอดภูลังกาไปด้วยกัน อีกนิดเดียว อีกนิดเดียว ผมคิดในใจเพื่อให้กำลังใจตัวเอง ตอนนั้น 8 นาฬิกาแล้ว แต่อากาศกลับเริ่มเย็นขึ้นเรื่อย ๆ จนหนาว ละอองน้ำโปรยปรายมาไม่ขาดสายจากเมฆที่พัดผ่านภู  พวกเราสามคนเดินขึ้นภูลังกาไปเรื่อย ๆ ไม่เร่งร้อน จนถึงทางแยกไปสวนหินล้านปีกับยอดภูลังกา เอกและผมเห็นพ้องต้องกันว่าเราจะขึ้นไปยอดภูลังกาเลย ซึ่งนั่นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง หลังรับรู้จากปลาในภายหลังว่า ลานหินล้านปีไม่มีอะไรน่าสนใจ

          เราทั้ง 3  คนดั้นด้นจนขึ้นมาถึงยอดภูลังกาจนได้ ความรู้สึกเหนื่อย อ่อนล้า มันหายไปหมดสิ้น มีแต่ความปลาบปลื้มที่สามารถพิชิตยอดภูได้ อากาศด้านบนดีมาก ลมเย็นเพราะมีเมฆหมอกเคลื่อนตัวเข้าประทะเป็นระยะ ๆ  น้องๆ ที่ขึ้นมาก่อนถ่ายรูปตรงหินด้านไกลซึ่งอยู่ริมหน้าผา  เห็นมีสาว ๆ อยู่สามคนคือปลา,หนิงและต้อ นอกนั้นเป็นหนุ่มๆ หน้าตาดีจากมหพันธ์ น้องแชมป์ น้องแอมที่เดินล่วงหน้ามาก่อนผมกับเอกกี้เพื่อมาดูแลสาว ๆ  ผมกับเอกเดินดูบริเวณรอบ ๆ ซักพัก เอกก็บอกผมว่า พี่หน่องผมขอภาพแพลงกิ้งบนภูลังกาซักภาพสิ ผมฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้ม  ๆ แต่ก็จัดการบันทึกภาพให้นายแบบคู่ใจโดยไม่รอช้า แอน เฮง เจย์  กั้ง ก็ขึ้นตามมา ใหม่ มิกซ์ แล้วก็สาวหมวยไฮโซที่ตักดินอย่างขยันขันแข็งซึ่งผมมารู้ชื่อตอนหลังว่าชื่อกุ้งก็ขึ้นมาไล่เลี่ยกัน  ทุกคนมีท่าทางสดชื่นหายเหนื่อย  ท๊อปพาใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษขึ้นมาถึงด้านบน ผมแปลกใจเพราะปกติ ท๊อปจะเป็นคนแข็งแรง ผมนอนน้อยน่ะพี่หน่อง เลยจะเป็นลมเอา กินเหล้าเยอะหรือเปล่าเมื่อคืนผมถามท๊อปด้วยความเป็นห่วง เปล่าหรอกพี่ พี่แอมกรนหนักจนผมนอนไม่หลับเลย ท๊อปบอกออกมาแบบปลง ๆ ผมหัวเราะก๊ากเลย เพราะท่าทางอย่างแอมไม่น่าจะกรนได้ แต่นี่กรนจนท๊อปไม่ได้หลับเลยแสดงว่าเสียงกรนคงดังพอสมควร  ส่วนดรนั้นเมื่อเดินขึ้นมาถึงก็มีท่าทางอิดโรยไม่ต่างจาก   ท๊อปเท่าไรนัก แต่สีหน้าไม่ซีดขาวแบบท๊อป  พอมาถึงดรก็ไม่พูดอะไรมาก  นั่งพักเหนื่อยบนแท่นเทวดา  และขอน้ำกิน  ภู ลังกา ภู ลังกา”  เฮง หนุ่มหน้าตาดี ผมหยักศกตะโกนอย่างมีความสุขพร้อมทั้งถ่ายคลิปไปด้วย น้องแอนโบกมือไหวๆ  อย่างร่าเริง  กลุ่มมหพันธ์และสามสาว ก็ถ่ายรูป โดยมีเปรม ยา เป็นช่างภาพ ส่วนแชมป์กับแอมก็เข้าไปแจมได้อย่างไม่เคอะเขิน  ท๊อปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปพร้อมทั้งสัมภาษณ์ผมกับเอกและน้องแอน เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่มีใครสนใจเพราะพวกเรารู้แล้วว่าความเหน็ดหนื่อยเมื่อล้าที่ผ่านมาขณะเดินขึ้นภูมันคุ้มค่ากับความสวยงามที่มาเจอ เมื่อพวกเราชื่นชมบนภู ถ่ายรูป กินบรรยากาศกันจนอิ่มอกอิ่มใจแล้ว ก็ถึงเวลาลงจากภูลังกาเพื่อไปทานข้าวเช้าด้านล่างและเที่ยวน้ำตก  ซึ่งกลุ่มสามสาวสวยและทีมมหพันธ์ได้ลงไปก่อนหน้าผมแล้ว  ครั้งแรกที่ลงมานั้น ผม เอก ท๊อปและแชมป์ลงไปกันก่อน โดยไม่ได้รอ แอนและเพื่อน ใหม่ มิกซ์   กุ้ง  ดร  แต่พอเดินลงไปถึงทางแยกตรงภูนม ผมมองกลับไปเห็นเพื่อน ๆ กลุ่มใหญ่กำลังเดินลงมา  ท๊อปก็หมดแรงเดินแทบไม่ไหว จนต้องหาอะไรมาทานเพื่อเพิ่มกำลัง เพราะตั้งแต่เช้าเรายังไม่ได้กินข้าวกันเลย  ผมจึงรอเพื่อนๆ กลุ่มหลังเดินลงมาและเข้าไปขอขนมหรือลูกอมมาให้ท๊อป ซึ่งน้องใหม่ มีลูกอมพอดี จึงให้มา  2  เม็ด และก็เพราะลูกอม เม็ดนั่นแหละที่ทำให้ผมตัดสินใจรอทุกคนเพื่อรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่และดินทางลงภูลังกาไปด้วยกันทั้งหมดเป็นกลุ่มสุดท้าย ความรู้สึกสนิทสนมกับทุกคนเริ่มมากขึ้นในช่วงที่เราเดินลงภูกันนี่เอง


20 ตุลาคม 2554

ต้นจำปูนหลังบ้าน
         


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น