วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
ผลไม้ของพ่อ
วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
สเต๊กบ้านไร่
วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
เรื่องสั้นในความทรงจำ “เรือรบจำลอง”
วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556
โต คนสร้างฝัน
วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556
Team Work
วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2556
Liverpool ในดวงใจ
วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556
ความรักของพ่อ
วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ผู้หญิงคนนั้น
วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
วัชรินทร์ เนินอุไร
วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556
ที่ไหนซักแห่งอันแสนไกล
ขณะที่ผมกำลังดูโทรทัศน์อยู่ที่บ้านประมาณ
5 ทุ่ม เสียงจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นแจ้งว่ามีข้อความเข้ามาใหม่ ผมหยิบโทรศัพท์มาดูก็ได้รับข่าวจากยุ้ย เอกเคมีที่ส่งข้อความมาว่า
“P’Tong die already 22.40”
ผมขยับตัวลุกไปหาภรรยาที่นอนอยู่ในห้องนอนและกอดตัวเธอไว้แน่นพลางบอกว่า “เพื่อนเค้าที่ไม่สบายมาช่วงต้นเดือนเมษายนเสียชีวิตแล้วนะ” เธอพยักหน้ารับรู้และกล่าวเบา ๆ ว่า “เค้าเสียใจด้วยนะคุณเทียน
เพื่อนคุณคงไปสบายแล้วล่ะ”
ผมพยักหน้ารับและไม่ได้กล่าวอะไรอีก แต่ในใจคิดถึงชีวิตสมัยเรียนบางแสน
คิดถึงต้องผู้จากไป
ภาพของต้องยังแจ่มชัดในความคิดของผมอยู่เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร
สมัยเราอยู่ปี 1 ตอนมีกิจกรรมงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ที่บางแสน
ต้องจะเป็นคนคอยเตรียมแบบข้อสอบให้เด็ก ๆ ม.ปลายที่จะมาร่วมงานตอบปัญหา
ผมเห็นเข้าก็อุทานออกมาว่า “ต้อง เก่งจัง พิมพ์ข้อสอบได้ด้วย”
ต้องตอบกลับมาทันทีทันใดว่า “เทียน
ผมน่ะพวกใช้แรงงาน โน่นคนเก่งน่ะเค้าทำข้อสอบและพิมพ์แบบมาให้” ต้องตอบพลางพยักเพยิดหน้าไปทางเก่ง ที่ง่วนอยู่กับเครื่อง Computer
Apple
สมัยอยู่หอ
10 ด้วยกันที่บางแสน
ต้องจะถูกเพื่อน ๆ ในหอเรียกว่า พี่ต้อง ผมเคยสงสัยมานานจนวันหนึ่ง ต้องมีโอกาสบอกผมว่า
“เทียน ผมซิ่วมาจากรามคำแหงน่ะ มาสอบ Entrance เข้าที่บางแสนได้ น้องๆ
เบญจมราชรังสฤษฎิ์ เลยเรียกผมว่าพี่ พวกพี่อ๋องน่ะ เพื่อนผมสมัยเรียนเบญจม ฯ
ทั้งนั้นแหละ” ผมพยักหน้ารับรู้และไม่ได้ถามอะไรอีก
ต้องเป็นคนเงียบ ๆ อาศัยอยู่หอ 10 โดยห้องต้องจะติดกันกับห้องผมและมีตู้เสื้อผ้าคั่นกลาง
ผมกับสมโภชน์จะมีโอกาสต้อนรับต้องเสมอในขณะกินอาหารเย็นแต่ละวัน ต้องจะเข้ามานั่งดูผมกับสมโภชน์กินข้าวกัน
และนั่งเมาท์เพื่อน ๆ ร่วมรุ่น โดยมีกอล์ฟเป็นแขกขาประจำวงกินข้าว แต่ตัวต้องเองจะไม่เคยร่วมวงทานข้าวกับผมเลย
ครั้งเดียวที่เห็นต้องมาร่วมกินข้าวด้วยกันคือช่วงที่เราไปจับปูลมจากหาดบางแสนและช่วยกันทอดกินในห้อง
ครั้งนั้นแหละที่ผมเห็นต้องมาร่วมวงกินปูลมชุบแป้งทอดโกกิอย่างสนุกสนาน สำหรับมื้อเย็นของต้องนั้น
ต้องจะซื้อข้าวกล่องจากร้านประจำมานั่งกินเงียบ ๆ คนเดียวที่ห้องดู TV ของหอ
จากนั้นก็เดินเอาช้อนไปล้างที่ก๊อกน้ำหัวมุมหน้าหอ 10
และเดินหลบหายไปในห้องพักหลังจากเสร็จทุกอย่างแล้ว ด้วยความที่ต้องเป็นคนเงียบ ๆ
ทำให้ผมเกรง ๆ ที่จะคุยกับต้องเหมือนกันและพอเอกรัตน์,สุกิจให้ความเคารพต้องที่เป็นรุ่นพี่
เลยทำให้ผมเกรงใจต้องไปใหญ่
ในงานแต่งงานผมเมื่อเดือน
กรกฎาคม 2554 ต้องปรากฏตัวในงานแต่งงานของผมอย่างเซอร์ไพร์ซ์ ผมยินดีอย่างบอกไม่ถูกที่เห็นต้องอยู่ในงาน
ทั้งอ้อม หน่องชาย เหน่ง สุกิจ หมู เก่ง เพื่อน ๆ
ที่มาร่วมงานทำให้ผมรู้ว่าผมยังมีเพื่อนดี ๆ ที่พร้อมจะร่วมยินดีในวันพิเศษเสมอ
ๆ ผมสอบถามถึงความเป็นไปในชีวิตของต้อง
ต้องพูดด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ ว่าจะแต่งงานกับก้อยในปีถัดไปช่วงปลายปี
ผมยิ้มและให้สัญญากับต้องว่า ผมจะไปร่วมงานแต่งงานของต้องอย่างแน่นอน
ขอให้ต้องบอกผมเท่านั้นเอง
บางทีชีวิตก็เป็นแบบนี้แหละ สิ่งทั้งหลายล้วนตั้งอยู่บนความไม่แน่นอน ต้นเดือนเมษายน
2556
ผมก็ได้รับข่าวจากยุ้ยที่โพสต์ในหน้าเฟซบุ๊คถึงอาการป่วยของต้อง ผมติดตามข่าวของต้องจากเพื่อนที่ผลัดกันเข้ามาอัพเดทข่าวอาการป่วยของต้อง
ให้กำลังใจทั้งต้องและก้อยด้วยความห่วงใย ผมสอบถามข่าวจากยุ้ยเป็นระยะ ๆ จนถึงวันที่ต้องจากไปคืนที่ 25 เมษายน สิ่งที่ดีที่สุดที่ผมทำได้คือขออโหสิกรรมกับเพื่อนต้อง
และขอให้ผลบุญที่ต้องได้ทำมาตลอดส่งต้องให้ไปเกิดในที่ที่ดี ๆ มีความสุข มีความสงบในดินแดนสุขาวดีตลอดไป
30 เมษายน 2556
ต้นจำปูนหลังบ้าน