ผมมีน้องชายร่วมสายเลือด 1 คน ที่กินนอน และเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่ยังจำความได้
จนเข้าช่วงวัยรุ่น ความเหินห่างก็เริ่มเข้ามาในชีวิตของเราทั้งสองคน
เพราะเมื่อจบชั้นม.ต้น ขณะที่ผมตัดสินใจเข้าเรียนหนังสือระดับ ม.ปลาย
น้องชายผมตัดสินใจไปทำงานเป็นลูกจ้างทั่วไปในโรงงานอุตสาหกรรมที่มาบตาพุด 1
ปี และออกมาเรียนต่อที่โรงเรียนเทคนิคที่สัตหีบ จ.ชลบุรี
เส้นทางชีวิตของแต่ละคนก็แยกกันไปจนยากจะมาพบกันอีก
จะเพราะทางชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว การใช้ชีวิต กลุ่มเพื่อนที่คบหรือต่างคนต่างเสาะหาเส้นทางของตัวเองจนค้นพบทางที่เหมาะสม
ความทรงจำวัยเด็กในเรื่องต่างๆ ระหว่างผมกับน้องชายก็ค่อย ๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา
สิ่งหนึ่งที่เชื่อมให้ผมรู้สึกว่าเป็นพี่น้องกันก็คือ Liverpool
ไม่ผิดหรอก ทีมสีแดงแห่งลุ่มน้ำเมอร์ซี่ไซด์จากเมือง Liverpool
นั่นแหละ ผมกับน้องชายโตมากับฟุตบอลอังกฤษในยุด
‘80 ยุคที่เมือง Liverpool มี 2 ทีมที่สลับกันคว้าแชมป์ลีก
ไม่ใช่เฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น เท่านั้น แต่ในระดับทวีปยุโรป ทั้ง Liverpool
และ Everton ต่างก็ออกไปประกาศศักดาในเวลาใกล้เคียงกัน
เพียงแต่ทีม Everton โชคร้ายที่หลังจากคว้าแชมป์
League ได้ในปี 1985 แล้ว สโมสรจากอังกฤษก็ถูกแบนไม่ให้เข้าร่วมแข่งเป็นเวลานานถึง 6
ปี จน Everton หมดสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันรายการที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปไปในปีต่อมา
หลังจากคว้าแชมป์ลีก และชนะเลิศในถ้วยคัพ วินเนอร์สคัพ
แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เราทั้งคู่ห่างไปจากทีม Liverpool ได้เลย ใช่แล้วเราทั้งคู่ต่างเป็น The KOP ตัวยง และหลงรักสโมสรสีแดงนี้อย่างหมดหัวใจเพราะนักเตะคนเดียวที่สวมเบอร์ 9
ที่ชื่อว่า เอียน รัช
ในวัยเด็ก เราทั้งคู่จะคอยติดตามการแข่งขันของทีม Liverpool
จากการอ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ซึ่งจะเป็นกรอบข่าวเล็ก ๆ
หน้ารองสุดท้ายของหนังสือพิมพ์ โดยข้อความที่ปรากฏจะเป็นข้อความเดิม ๆ
ที่ว่า “ Liverpool ชนะนำจ่าฝูงต่อไป” หรือ “ Liverpool
คว้าแชมป์ลีกคัพเป็นสมัยที่สามติดต่อกัน”
แค่ข้อความเล็ก ๆ ก็ทำให้เราสองพี่น้องมีเรื่องคุยกันไปทั้งวัน
ที่สำคัญก็คือ ในปี 1986 ที่ Liverpool คว้า Double Champ ครั้งแรกท่ามกลางสีแดงและสีน้ำเงินในสนามเวมบลีย์เก่า
เราทั้งคู่ต่างรอผลอย่างใจจดใจจ่อ
เพราะปีนั้นกว่าจะคว้าแชมป์ลีกได้ก็ต้องลุ้นจนนัดสุดท้าย และต้องขอบคุณ Oxford
ที่เอาชนะ Everton จนทีมทีอฟฟี่สีน้ำเงินมีคะแนนไม่พอที่จะขึ้นมาทาบ
Liverpool ที่นัดสุดท้ายยกพลไปกำชัยที่แสตมฟอร์ด
บริดเหนือเชลซี 1-0 ด้วยประตูชัยของนักเตะอันดับ
1 ตลอดกาลอย่าง เคนนี่ เดลกลิช แต่อีก
3 ปีต่อมา ชัยชนะใน F.A. Cup รอบชิงเหนือคู่ปรับหน้าเดิมอย่าง Everton ไม่ได้ทำให้ผมดีใจมากเท่าที่ควร
เพราะการสูญเสียที่ฮิลโบโร่ ในรอบรอง F.A. Cup ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงอยู่ในความเศร้า
ข่าวทาง TV นำเสนออย่างมากมาย ภาพลูกยิงของปีเตอร์
เบรียดสลี่ย์
ที่ชนคานกระเด้งออกมาจนกระตุ้นเสียงโห่ร้องตื่นเต้นและกระตุ้นให้ทุกคนเฮโลเข้ามาในสนามจนมันกลายเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมยังคงวนเวียนอยู่ในความทรงจำตลอดมา
สิ่งหนึ่งที่เหมือนเป็นสัญญาณบอกว่า Liverpool เริ่มสู่ยุคตกต่ำก็คือ การเข้ามารื้อระบบต่าง ๆ ของ แกรม ซูเนส
การก้าวขึ้นมาของคู่ปรับตลอดกาลที่ผมไม่เคยเห็นอยู่ในสายตามาตลอดอย่าง Manchester
United ที่เริ่มฟื้นจากการหลับใหลอย่างยาวนาน ยุค 90
เป็นยุคที่ผมอยากจะลืมเป็นที่สุด เพราะนอกจากทีมจะค่อย ๆ
ลดเพดานต่ำลงมาเรื่อย ๆ แล้ว
การดำเนินการที่ไม่เฉียบคมพอทั้งในและนอกสนามของ Liverpool ก็ยังส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อทีมจนกระทั่งมาถึงปัจจุบัน
ทั้งน้องชายที่เคยสนิทสนมกันเมื่อยังเด็ก ๆ ก็มีโลกของตัวเองจนยากจะเข้าถึง
ครั้นจะหาสิ่งเชื่อมโยงกันเหมือนวัยเยาว์ อย่าง Liverpool ก็ยากที่จะหาเรื่องราวดี ๆ มาคุยกัน
โปสเตอร์รูปเอียนรัชที่ผมเอาแสตมป์ไปแลกซื้อจากเครือสยามสปอร์ตในราคา 30
บาทสมัยเด็ก ๆ ก็ขาดรุ่งริ่งเหมือนกับฟอร์มของ Liverpool
ในช่วงนั้น บางครั้งนึกว่าจะกลับมาได้ จะกลับมาได้
แต่ความจริงที่ปรากฏก็คือ Liverpool ที่ผมเคยรู้จักได้เลือนหายไปตามกาลเวลาซะแล้ว
หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย
ผมเข้ามาทำงานในกทม.
จึงไม่ค่อยได้เจอน้องชายที่เข้าทำงานเป็นนายช่างใหญ่ในโรงงานอุตสาหกรรมนิคมมาบตาพุด
และเมื่อผมกลับไปบ้านก็ไม่ได้เจอน้องชายบ่อยเท่าที่ควรจะเป็น
จะมีก็แต่วันสำคัญที่เราเจอกันก็คือ วันแม่กับวันพ่อที่ต่างคนต่างรู้ว่า
ไม่ว่าจะงานยุ่งกันเพียงไหน เราทั้งคู่ต่างก็ไม่เคยลืมจะกลับไปหาพ่อและแม่
และนั่งกินข้าวด้วยกันพร้อมพ่อกับแม่พี่ชายและน้องสาว แต่เหมือนเดิม
เราไม่ค่อยได้คุยกันได้อย่างสนิทเหมือนสมัยยังเป็นเด็ก ๆ และทุก ๆ
ปีก็จะเป็นเช่นนี้ จนหลาย ๆ ครั้งที่ผมบอกใคร ๆ
ว่ามีน้องชายก็มักจะสร้างความประหลาดใจให้กับคนรอบข้างเสมอ
ชีวิตทำงานผ่านไปปีแล้วปีเล่าจนกระทั่งถึงวันที่ Liverpool คว้าแชมป์ถ้วยยุโรปใบใหญ่สุดได้ที่สนาม อตาเติร์ก ประเทศตุรกี
ในเดือนพฤษภาคม ปี 2005 หลังจากเกมส์จบการแข่งขันไม่นาน
ผมก็เห็นข้อความจากน้องชายเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของผม “Liverpool
ได้แชมป์ยุโรป ดีใจจริง” นั่นเป็นข้อความแรกตั้งแต่เรามีโทรศัพท์มือถือใช้และน้องชายส่งข้อความมาหา
และยังคงเป็นข้อความล่าสุดที่น้องชายส่งมาให้จนถึงวันนี้
หากเป็นไปได้สิ่งที่ผมยังหวังว่าจะเกิดขึ้นคือถ้า Liverpool ความแชมป์ลีกได้ในระยะเวลาอันใกล้ ผมก็น่าจะได้รับ Message จากน้องชายที่บอกถึงความยินดีอีกครั้ง เหมือนครั้งที่คว้าแชมป์ยุโรปล่าสุด
และคงจะมีเรื่องราวให้เราทั้งคู่ได้คุยกันเหมือนสมัยยังเป็นเด็กน้อยของพ่อกับแม่
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหนเหมือนกันที่ Liverpool จะได้แชมป์อีก
หรือผมอาจจะไม่มีโอกาสอีกแล้วในชีวิตนี้ก็เป็นได้
24 กันยายน 2556
ต้นจำปูนหลังบ้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น