วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สเต๊กบ้านไร่


                     พี่หน่องคร๊าบบบ เสาร์นี้ว่างมั้ยคร๊าบบบบบ”      เสียงออดอ้อนมาจากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งผมเห็นเบอร์ 08-374… ผมก็รู้แล้วว่าใคร ไง จะชวนไปไหนอีกล่ะ ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยมีตังค์นะ ผมตอบไปตามที่รู้สึกอย่างที่บอกจริงๆ  โถ พี่หน่อง ผมจะชวนไปกินเสต๊กอร่อย ๆ แถว ๆ บางกะปิน่ะ อร่อยและถูก พี่ไม่เสียเงินมากหรอกพี่ เดี่ยวเจอกันที่ร้านไอ้ดิวเลยนะพี่ ผมหิวแล้ว   ปรีชาไม่ยอมให้ผมต่อล้อต่อเถียงหรือต่อรองอะไรอีกและรีบวางสายผมไป อาจคงเพราะกลัวผมปฏิเสธหรือหาเหตุผลมาอ้างให้มากเรื่องเข้าไปอีก   ผมเก็บโทรศัพท์มือถือแล้วก็อาบน้ำโดยเร็ว เพราะกลัวไปช้าไม่ทันมื้อกลางวัน ซึ่งแต่เดิมเดิมตั้งใจไว้ว่าจะทความสะอาดบ้านซะหน่อย แต่ก็คงไม่ทันแล้วล่ะ  จากนั้นจึงขับรถปลาเข็มคันเก่งออกจากบ้านที่รามอินทรา มุ่งไปยังร้าน เสต็กบ้านไร่ ซึ่งอยู่ที่ตลาด บางกะปิ เพื่ออุดหนุนพ่อค้าหนุ่มที่สมัยนั้นหุ่นยังเฟิร์ม ไม่อ้วนเหมือนปัจจุบัน

                    เสต๊กบ้านไร่ รสชาติบ้านนอก ใครหลาย ๆ คนที่ทำงานเคยพูดเอาไว้แบบนั้น แต่หลังจากหมดเสต็กไปคนละ  2  จานกับปรีชาพร้อม ๆ ไฮเนเก้นรสชาติกลมกล่อมอีก  4  ขวดผมก็เรียกพ่อค้ามาคิดเงิน  อ่อ 600  บาทครับพี่หน่องแต่ผมคิด 200 บาท ถือว่าเลี้ยงพี่แล้วมาอุดหนุนก็แล้วกัน จะดีหรือดิว กินกันตั้งเยอะ ของค้าของขายผมตอบออกไปเพราะเกรงใจเจ้าของร้านจริง ๆ ขณะที่สายตาเหลือบไปมองลูกสาวตัวน้อยวัย 3  ขวบที่ยืนเกาะขาคุณพ่อและมองมายังผมและปรีชาด้วยแววตาไร้เดียงสา โธ่ พี่หน่อง เจ้าของร้านเค้าลดให้แล้ว เราต้องขอบคุณเค้านะ ปรีชาเอ่ยเสร็จก็ควักแบ๊งค์ร้อย  2  ใบยื่นให้ดิวอย่างหน้าตาเฉย ผมแอบถอนหายใจด้วยสงสารเพื่อน แต่ก็อดขำไปกับท่าทางของทั้ง 2  นี้ไม่ได้
                    พี่หน่อง วันนี้ครบปีแล้วนะ ดิวเคยบอกกับผมในค่ำวันหนึ่งที่นั่งกินข้าวด้วยกันที่ร้านอาหารประจำ แถว ๆ ท่าทรายครบปีอะไร ?  ครบปีที่ช้อยจะมีลูกหรือไง ? “  ผมถามกลับไปแบบขำ ๆ เพราะคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าดิวกำลังจะชักนำผมไปในเรื่องไหนอีก ครบปีที่ผม ลาออกจากบริษัท มาเป็นเจ้าของกิจการน่ะสิ I still alive  ผมยังอยู่ได้ เห็นมั้ย มีสุขภาพดีซะด้วย ดิวพูดไปพร้อมทั้งกางแขนออกสองข้าง เหนือพุงกลม ๆ และส่ายหน้าพูดไปอย่างช้า ๆ   ผมยิ้ม ๆ ไม่ได้ว่าอะไร เพราะรู้จักดิวมาพอสมควร ทั้งนิสัยใจคอ ความเป็นคนใจสู้ ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตา และคิดว่าทางเดินที่ทอดยาวต่อไปของดิว คงไม่จบลงอย่างง่าย ๆ  แน่นอน

                     ผมนึกถึงเรื่องนี้อีกครั้งที่เห็น Facebook  ของผมเอง ถูก Tag  มาจากชายหนุ่มหุ่นอ้วน ที่วันนี้เป็นเจ้าของกิจการหลาย ๆ อย่าง โดยจะออกแนวการตลาดแบบบ้าระห่ำซะด้วยซ้ำ ทั้งกิจการขายหมู  ขายถ่าน  นักเขียนล่ารางวัลซีไรท์  เปิดบู๊ทขายลูกชิ้นเทวดา และโปเจคใหม่ สเต๊คบ้านไร่ กาแฟบ้านดิน  ซึ่งเห็นภาพร่างร้านคร่าว ๆ แล้วก็นึกชื่นชมไปกับเพื่อนรุ่นน้องคนนี้ไม่ได้ในความไม่รู้จักท้อถอย และมองหาลู่ทางธุรกิจใหม่ ๆ  และแต่ละอย่างก็ทำเอาผมแปลกใจ  อยู่เสมอ     เอ แล้วถ้าร้านเสร็จเรียบร้อยแล้วและเปิดกิจการ ผมยังจะได้รับส่วนลด เหมือนวันที่ผมกับปรีชาไปอุดหนุนร้าน สเต็กบ้านไร่ ที่บางกะปิ เหมือนเมื่อเกือบ 10  ปีก่อนอีกหรือเปล่านะ


13 พฤศจิกายน  2555
ต้นจำปูนหลังบ้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น