วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

บันทึกภูลังกา-IV-เหนื่อยกายแต่สุขใจ


          ครั้งแรกที่เห็นหน้างานที่เราจะไปทำกัน ผมแอบคิดในใจว่า ช่างน้อยเสียเหลือเกิน พวกเรายกขโยงกันมา 60 กว่าชีวิตถึงจะเป็นผู้หญิงเกือบครึ่งก็เถอะ แต่ยังไงแค่วันเดียวเราก็น่าจะทำเสร็จ และจะเหลืออีกวันเต็ม ๆ ที่เราจะได้ไปเที่ยวภูลังกา เที่ยวน้ำตก แล้วก็ถ่ายรูปกันได้อย่างสบายใจ  งานที่เราจะทำคือการเทพื้นที่ได้มีการเทคานรอท่าไว้อยู่แล้ว ซึ่งทุกคนที่มาออกค่ายกันก็คงจะคิดคล้าย ๆ กับผมว่ามันคงใช้เวลาไม่นานนักก็คงจะเสร็จ  แต่พอเริ่มงานเข้าจริงๆ งานมันยากกว่าที่คิดไว้มาก งานของพวกเราเริ่มจากขุดดินข้างๆ  พื้นที่จะเท เข้ามาถมให้เต็ม  พวกเราจะแบ่งออกเป็น  3 ทีมเรียงตามช่องที่ขน ช่อง  และแบ่งเป็น  2  กลุ่มคือพวกที่ขุดดินมาใส่กระป๋อง บุ้งกี๋แล้วก็กลุ่มที่ขนหินไปถมพื้น  แรก ๆ ผมก็เข้าแถวคอยช่วยกันขนดิน ซักพักก็เริ่มมีเสียง ร้องมาจากน้องๆ สุดที่รักที่ทนเห็นผมทำงานสบายๆไม่ได้   พี่หน่อง มาช่วยขุดดินหน่อยพี่ น้องแอมเรียกผม  ไอ้ผมไม่ไปก็ไม่ได้ ต้องทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องๆ ที่สำคัญน้องผู้หญิงก็มาก เดี๋ยวจะหาว่าเราเอาเปรียบเด็ก ๆ ลุคผมจะพลอยเสียไปด้วย ผมเลยเดินไปรับจอบมาขุดดินใส่หระป๋อง  เมื่อขุดไปได้ซักพักก็รู้สึกหลังจะไม่ค่อยดีเพราะนั่งรถนาน มิ้งกี้ มาช่วยพี่หน่อยผมมองป้ายชื่อแล้วเรียก น้องมิ้งเด็กจากบริษัทมหพันธ์ให้เข้ามาช่วยขุดดินต่อจากผม จากนั้นผมก็เริ่มรู้จักกับเพื่อนๆ ร่วมค่าย ซึ่งต้องขอบคุณป้ายชื่อที่ทำให้เรารู้จักกันเร็วขึ้น   น้องเงี๊ยบมาเปลี่ยนพี่หน่อยเร็ว ดร มาเลย มาเลย” “แอม มาเร็ว” “เอก มาเปลี่ยนพี่หน่อย”  “ท๊อปมานี่ มานี่ผมเฝ้าวนเรียกทุกๆ คนที่อยู่รอบ ๆ ให้มาช่วยกันขุดดิน เพราะการก้ม ๆ เงย ๆ ไม่น่าจะเหมาะกับหลังผมด้วยอายุที่ออกไปทางมาก แม้หน้าตาจะดูเด็กก็ตามที   คนในแถวที่ช่วยกันขนดินก็เริ่มทำความรู้จักกันมากขึ้น  แอน สาวหน้าคมผู้แข็งแรง ทำงานอย่างไม่ปริปากบ่น  เจย์ ผู้ร่วมทางที่ดูเหมือนจะบอบบาง แต่ก็สู้งานหนักอย่างไม่ย่อท้อ เฮง หนุ่ม อารมณ์ดีที่ผมอำวันแรกที่เจอกันบนรถตู้ กั้งหนุ่มร่างผอมบาง สูงโปร่ง กุ้งสาวหมวยที่ดูเหมือนสาว ไฮโซ แต่ก็ทำงานกรรมกรได้อย่างสบาย ๆ   เห็นทุกคนทำงานกันอย่างนี้ ความรู้สึกเหงา ๆ ตั้งแต่ก่อนเดินทางเริ่มหายไป เปลี่ยนมาเป็นความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อต่อคนรอบข้าง ทุก ๆ คนก็มาเหมือนเรานั่นแหละ ถ้าเราช่วยกันทำงาน ทุกอย่างก็คงเสร็จได้ในเวลาไม่นานนัก

          พี่หน่อง มาช่วยผมอัดพื้นหน่อย”  เอาอีกแล้ว เอกกี้เรียกผมให้ไปช่วยยกซุงกระแทกพื้นดินเพื่ออัดให้แน่น ๆ เอ้า เฮ้ย” “เฮ้ย”  “เอ้า เฮ้ย”  ผมกับเอกร้องสลับกันไป เพื่อกระตุ้นให้มีแรงทำงาน  แต่ก็กระทุ้งกันได้ไม่นาน เพราะท่อนไม้นั้นหนักเอาเรื่องเหมือนกัน  เดี๋ยวพี่ไปกินน้ำก่อนนะ เอก ผมบอกเอกเพราะหิวน้ำจริง ๆ และจะเดินไปดูตี๋ด้วย เพราะเจ้าน้องชายคนนี้ผมชวนมาอกค่ายด้วยกัน ผมไม่ค่อยดีเลยพี่หน่อง เหมือนจะเป็นไข้ ตี๋บอกผมด้วยหน้าตาเศร้า ๆ ถ้าไม่ดีขึ้นผมอาจจะจับรถไปกรุงเทพฯวันนี้เลย” “ใจเย็น ๆ ตี๋ เดี๋ยวพักก่อนก็ได้ งานไม่ต้องหักโหมมาก พวกเรามาช่วยกันเยอะแยะ ไม่ต้องซีเรียส ผมบอกน้องตี๋แล้วเดินไปตักน้ำกินแก้กระหาย  ขณะที่น้องเปรม ช่างภาพอีกคนก็เดินไปเก็บรูปของพวกเราเป็นระยะ ๆ ผมรอให้น้องเปรมมาใกล้ ๆ จะได้ขอให้ถ่ายรูปผมซักรูป สองรูป แต่ก็เห็นเปรมเวียนไปถ่ายแต่ น้องปู น้องนู่เล็ก น้องจุ๋ม น้องต้อ ไม่มองมาทางพี่บ้างเลย แต่ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยวันนี้เริ่มงานวันแรก ผมเห็นรอยยิ้มจากเพื่อน ๆ ทุกคนที่ช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็งแล้วรู้สึกสุขใจจนบอกไม่ถูก  แต่พอมองไปดูงานที่ทำแล้ว เฮ้อ สงสัยผมต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ซะแล้ว เพราะงานที่ผมประเมินว่าน้อยนั้น เอาเข้าจริงมันยากและหนักกว่าที่ผมคิดไว้มาก





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น