24 ธันวาคม 2560 05:45 น. ผมกับภรรยาพากันเดินออกจากห้องพักภายในรีสอร์ตที่ตั้งอยู่ชายแดนประเทศไทยด้านเหนือสุดที่อ.เชียงแสนเพื่อไปรับสายหมอกยามเช้าที่ริมโขง ระหว่างเดินไปภรรยาถ่ายรูปดอกไม้เล็ก ๆ ที่แทรกตัวขึ้นตามริมทางเดินที่ทอดลาดจากตัวอาคารที่พักไปยังท่าน้ำ อากาศยามเช้าวันนี้สดชื่น อุณหภูมิสบาย ๆ ไม่ถึงกับหนาวมาก เมื่อเดินไปถึงริมโขงก็ใช้เวลากับสายหมอกที่ปกคลุมหนาและดูแม่น้ำโขงไหลผ่านเบื้องหน้าพลางคิดถึงสิ่งที่ทำให้เรามาทั้งสองคนดั้นด้นกันมาจนถึงที่พักแห่งนี้
ภรรยาผมกำชับมาตั้งแต่ก่อนออกเดินทางจากปทุมธานีมาเที่ยวภาคเหนือว่าต้องไปต้อนรับพี่ตูนที่วิ่งในโครงการ “ก้าวคนละก้าว” เพื่อให้กำลังใจพี่ตูนและทีมงานที่จังหวัดเชียงรายก่อนพี่ตูนจะสิ้นสุดการวิ่งโครงการก้าวคนละก้าวที่อำเภอแม่สายทำให้ผมต้องวางแผนการเที่ยวให้สัมพันธ์กับการวิ่งของพี่ตูนและคอยติดตามข่าวพี่ตูนอย่างใกล้ชิด ซึ่งวันนี้เป็นวันที่พี่ตูนจะวิ่งผ่านวัดร่องขุ่นก่อนจะเข้าตัวจังหวัดเชียงราย เมื่อผมตรวจดูสถานที่คร่าว ๆ และระยะเวลาแล้วทำให้ผมวางแผนออกจากรีสอร์ตในเวลา 10:00 น. เพื่อไปให้ถึงวัดร่องขุ่นก่อนเที่ยง หลังจากเราสองคนดื่มด่ำกับส่ายหมอกและบรรยากาศกันแล้วผมพาภรรยาไปรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารในรีสอร์ตซึ่งอาหารเช้าในวันที่ตื่นมาในรีสอร์ตเป็นความสุขที่สุดอย่างหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นจากภรรยา มันเหมือนช่วงเวลาที่สงบ อบอุ่น ผมชอบมองภรรยาเดินไปตักอาหารและนำกลับมาถ่ายรูปอวดเพื่อนในเฟสบุ๊คส่วนตัวของเธอโดยแทบทุกครั้งเธอจะ Tag มาหาผมด้วยนัยว่าผมมีเพื่อนเยอะจะได้ช่วยกันเข้ามาดูรูปและกด Like
เราออกจากรีสอร์ตและเดินทางไปถึงวัดร่องขุ่นเกือบเที่ยง ถึงตอนนั้นทุกอย่างดูชุลมุนวุ่นวายซึ่งคณะก้าวคนละก้าวและพี่ตูนเข้าไปในบริเวณวัดแล้ว รถยนต์จำนวนมากวิ่งเข้าติดกันที่ถนนผ่านวัด ผมประเมินแล้วว่าคงไม่สามารถเอารถไปจอดในวัดได้แน่จึงบอกภรรยาให้ลงจากรถบนถนนใกล้กับอาคารด้านหน้าที่เตรียมรับคณะนักวิ่งเพื่อให้ภรรยาไปซื้อของที่ระลึกกับทีมงานโดยผมขับรถเลยเข้าไปเพื่อหาที่จอดที่ใกล้ที่สุดแต่ก็ต้องขับเลยวัดไปไกลกว่าจะหาที่กลับรถได้และรอให้ภรรยาโทรกลับมาบอกให้ไปรับหลังจากที่ซื้อของที่ระลึกเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วผมก็ขับรถมารับภรรยาและพาออกมาจากวัดโดยตั้งใจจะไปรอให้กำลังใจพี่ตูนที่ข้างทางที่พี่ตูนจะวิ่งผ่านซึ่งห่างจากวัดร่องขุ่นประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อได้ที่จอดรถและที่ยืนรอผมกับภรรยาก็ลงไปรอข้างทาง
เราสองคนติดตามข่าวของพี่ตูนว่าจะออกจากวัดร่องขุ่นกี่โมงผ่านทางเฟสบุ๊ค ซึ่งวันนั้นเกิดความล่าช้าขึ้นอาจจะเพราะการวิ่งมาไกลจนใกล้จุดหมายปลายทางซึ่งทำให้ทีมงานเหนื่อยล้า และวันนี้ก็เป็นวันที่ร้อนมากทั้งๆ เข้าสู่ช่วงปลายเดือนธันวาคมแล้วและเมื่อทางทีมงานยืนยันว่าพี่ตูนจะออกมาจากวัดประมาณบ่ายสามผมกับภรรยาก็ใช้พูดคุยในช่วงที่รอพี่ตูน ซึ่งเรื่องที่คุยก็คือความสุขที่เราเดินทางมาพักผ่อนทางภาคเหนือซึ่งถึงเราจะเดินทางกันมาไกลแต่ก็เทียบไม่ได้กับสิ่งที่พี่ตูนทำให้กับประเทศไทยในช่วงตั้งแต่โครงการก้าวคนละก้าวได้ และเมื่อคณะทีมงานก้าวคนละก้าวเริ่มออกวิ่งออกจากวัดร่องขุนผมกับภรรยาก็ออกไปยืนรอพี่ตูนที่ริมถนนพร้อมทั้งเตรียมเงินไว้ร่วมสมทุบทุนกับทีมงานด้วยหัวใจที่พองโต
สำหรับสิ่งที่ตั้งใจก่อนที่จะเจอหน้าพี่ตูนสำหรับผมก็คือจะยืนปรบมือให้กำลังใจพี่ตูนและทีมงานเท่านั้น จะไม่ไปจับมอไปทึ้งไปกอดแบบที่พี่ตูนเจอมาตลอดทางเพราะเป็นห่วงสภาพร่างกายของพี่ตูนเป็นอย่างมาก และเมื่อขบวนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ผมก็เริ่มปรบมือให้กำลังใจและกล่าวขอบคุณทีมงานที่เดินผ่านหน้าไปทีละท่าน ระหว่างนั้นหญิงสาวตัวเล็ก ๆ ท่าทางร่าเริงสดใสก็เดินผ่านหน้าเราสองคนพร้อมทั้งรอยยิ้มและยื่นมือมาจับขอจับมือ ผมจ้องมองและยิ้มตอบหญิงสาวคนนั้นพร้อมทั้งเอื้อมมือไปจับให้กำลังใจซึ่งภรรยาก็ทำอย่างเดียวกันเมื่อหญิงสาวคนนั้นเดินผ่านไปผมก็ถามภรรยาว่าใครกันที่เราทั้งคู่จับมือด้วย และก็ถึงบางอ้อเมื่อหญิงสาวคนนั้นหันมายิ้มสดใสก่อนเดินจากไปนี่เราสองคนเพิ่งจะจับมือกับหมอเมย์ไปนี่เอง จากนั้นเสียงเสียงคุณโน้ต อุดมประกาศจากไมค์โครโฟนดังใกล้เข้ามาที่ที่ผมยืนรอ ผมเร่งปรบมือให้กำลังใจและกล่าวขอบคุณนักวิ่งทุกคนน้องนายลูกแม่หมูพิมพ์ผกาวิ่งเหยาะ ๆ พาหน้าหล่อ ๆ เข้ามาใกล้ให้ภรรยาผมร้องทักจนเสียงหลง ส่วนผมมองหาชายคนที่ผมกับภรรยารอมาทั้งสัปดาห์ ทันใดนั้นใบหน้าผอมหนวดเครารุงรังก็วิ่งเหยาะๆ เข้ามาใกล้จนเห็นหน้าชัดเจน เมื่อมาประจันหน้ากันจริง ๆ พี่ตูนเอื้อมมือมาขอแปะมือผม ผมลืมครามตั้งใจทั้งหมดที่จะไม่รบกวนพี่ตูนโดยการยื่นมือไปสัมผัสมือชายหนุ่มร่างผอมบางใบหน้าโทรมไปด้วยเหงื่อแต่แววตาสดใส ชั่ววินาทีหลังสัมผัสมือพี่ตูนก็วิ่งจากไปทิ้งไว้แต่ความทรงจำที่ฝังลึกเข้าไปในหัวใจและยังคงลุกโชนในความรู้สึกของผมจนถึงทุกวันนี้
ถึงวันนี้มีเสียงก่นด่าพี่ตูนเรื่องการไม่ออกมา Call Out จากคนที่หวังผลทางการเมือง เอาเรื่องการวิ่งของพี่ตูนมาแซะตามช่องทางโซเชียลมีเดียผมเห็นแล้วอยากโต้ตอบแต่ก็คงเปล่าประโยชน์ คนที่ทำอะไรยิ่งใหญ่มามากอย่างพี่ตูนคงไม่สนใจอะไรคนเหล่านี้แต่พี่ตูนคงเจ็บข้างในเมื่อเห็นคนในวงการเดียวกันดาหน้าออกมารุมแทะเหมือนหมาป่าหิวโซ ผมทำได้ก็เป็นเพียงช่วยส่งกำลังใจให้พี่ตูนพร้อมทั้งสนับสนุนสิ่งดี ๆ ที่พี่ตูนทำต่อไป ใครไม่เห็นสิ่งดีๆ ที่พี่ตูนทำแต่ผมกับภรรยาเห็นมาด้วยตาตัวเองที่เชียงรายเมื่อ 4 ปีก่อนและยังประทับใจมาถึงวันนี้ ขอให้พี่ตูนทำดีต่อไป ยังมีคนไทยที่รักชาติอยู่ข้าง ๆ พี่ตูนอยู่เสมอ
13 กรกฎาคม 2564
ต้นจำปูนหลังบ้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น