วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2559
The Young Ones
วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2559
เรื่องเก่าที่ไม่เคยหายไปจากสังคมไทย
ระลึกถึงอาจารย์ผู้เป็นที่รักและเป็นผู้ให้ตลอดมา
วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2559
คุณไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินชีวิตใคร
กิจกรรมที่ทำก็คือการก่อสร้างอาคาร งานก่อสร้างนั้นไม่ยากนัก แต่สิ่งที่ยากในการทำงานนั้นคือไม้ที่เราจัดหาไว้เพื่อนำมาทำเป็นโครงหลังคามีไม่พอ แล้วเราจะหาไม้มาจากไหน เงินทุนก็ไม่เพียงพอ การตัดสินใจที่สำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตก็มาถึง ในที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่า เราจะไปหาไม้บนเขาใกล้ ๆ โรงเรียนมาแปรรูปเพื่อทำหลังคา โดยมีชาวบ้านที่มีความชำนาญมาคอยช่วย
ผมและเพื่อนๆ รวมทั้งชาวบ้านเดินทางขึ้นไปบนเขา เมื่อไปถึง เราเดินสำรวจเพื่อมองหาต้นไม้ที่ต้องการ สุดท้ายได้ไม้ต้นหนึ่งที่โคนต้นนั้นถูกปลวกแทะจนกินเนื้อไม้ไปถึง 3 ใน 4 ส่วน อาการของต้นไม้หากปล่อยไปไม่ถึงปีก็อาจจะยืนต้นตาย หลังจากปรึกษาและพิจารณากันถี่ถ้วยแล้วจึงตัดสินใจโค่นต้นไม้ต้นนั้นลงมา ขณะที่ชาวบ้านลงเลื่อยยนต์ไปที่โคนต้นไม้นั้น คำถามลอยมาอยู่เต็มหัว เราไปโค่นต้นไม้นั้นทำไม แล้วเราทำถกแล้วหรือ หลังชาวบ้านใช้เลื่อยยนต์เลื่อยที่โคนไม้ไม่ถึง 5 นาที ต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นก็ล้มลงไปต่อหน้าต่อตา ความรู้สึกของผมขณะนั้นคือใจหาย เสียดาย สูญเสีย เหมือนมีก้อนบางอย่างจุกอยู่ในลำคอ พูดไม่ออก ผมไม่รู้ว่าผมและคณะเดินกลับมาถึงที่โรงเรียนเมื่อไหร่ และเย็นนั้นในที่ประชุม ผมเป็นคนหนึ่งที่ร่วมให้ข้อมูลการทำงานกับทีมงาน เหตุผลและเงื่อนไขในการโค่นต้นไม้ หลังจากผมพูดจบ เสียงพี่แก้วนิสิตพยาบาลปี 4 ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ “ผมเป็นคนที่เรียนวิชาพยาบาล ผมถูกสอนอยู่เสมอว่า คุณไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินว่าคนไข้จะอยู่หรือจะไป หน้าที่ของคุณคือรักษาชีวิตของคนไข้ให้สุดความสามารถ ไม่ใช่ไปตัดสินชีวิตของเขาแทนตัวเขาเอง” ผมฟังพี่แก้วพูดแล้วนิ่งไปนาน ไม่มีเสียงตอบโต้เพราะจำนนในเหตุผลของพี่แก้ว ใช่ ผมไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินชีวิตใคร ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือแม้แต่ต้นไม้ใกล้ตายที่ผมไปโค่นเขาลงมา ถึงจะเพื่อการพัฒนาตามที่ผมคิดว่าดีแล้วก็ตาม
วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2559
ยากแท้ แต่ไม่เคย
วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ของขวัญ
วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ครั้งหนึ่งยังจำได้ที่ B100 – โต้งเป็นเหตุ
วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ถ้าครึ่งโลกร้ายที่ฉันถางถาก เป็นครึ่งโลกสวย ขอมอบให้เธอ
เช้าวันศุกร์สิ้นเดือนในเดือนที่ดูเหมือนจะยาวนาน ผมตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตี 5 หลังจากภรรยาปล่อยให้นอนตากยุงอยู่หน้าจอโทรทัศน์ตั้งแต่ 3 ทุ่มคืนวันพฤหัสบดี ผมเดินมาเปิด Notebook ดูข่าวผ่านหน้า Facebook สายตาเหลือบไปเห็นซองจดหมายจากธนาคาร 2 ธนาคารบนโต๊ะเลยเปิดดูถึงรู้ว่าเป็นใบแจ้งเงินปันผลจากกองทุนของธนาคารที่ซื้อไว้ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกคิดว่าเป็นใบแจ้งหนี้ ถึงจำนวนเงินที่ทางธนาคารแจ้งจะไม่มากนักเมื่อเทียบกับนิสัยใช้จ่ายแบบไม่ค่อยคิดของผมเองแต่ระหว่างดูรายการเหล่านั้นทำไมผมนึกไปถึงคุณแม่ก็ไม่รู้ ภาพคุณแม่หาบของขาย หาซื้อมะม่วงจากสวนต่าง ๆ เพื่อไปขายส่งให้แม่ค้าที่ตลาดแม่แดงในตัวเมืองระยอง หรือเตรียมของในสวนไปวางขายในตลาดนัดเพื่อเก็บเงินสะสมมาให้ลูกใช้จ่ายเป็นเงินเพื่อศึกษาเล่าเรียนตั้งแต่สมัยที่ลูก ๆ ของแม่ยังเรียนหนังสือกันทั้ง 4 คนลอยมาเต็มหัวไปหมด สิ่งที่น้อยใจในอดีตที่ไม่มีเสื้อผ้าสวย ๆ ไว้สวมใส่ไปอวดเพื่อน ๆ พลอยทำให้น้ำตาไหลมาด้วยความเสียใจ เสียใจที่โง่เขลาว่าอะไรบ้างที่แม่ทำไว้ให้ อะไรบ้างที่แม่หาให้ไม่ได้เพราะต้องเลือกสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตให้กับลูกก่อนนั่นคือการศึกษาและเพิ่งมาเข้าใจเมื่อผ่านชีวิตการทำงานที่ยากลำบากและพบเจอผู้คนหลากหลายที่เวียนผ่านเข้ามาในชีวิต
ทุกวันเสาร์หลังจากแม่ขายของเสร็จแล้วจะเป็นวันที่แม่มีความสุขที่สุดในอาทิตย์นั้นเพราะเป็นวันที่แม่ขายของได้เงินมากที่สุด
ภาพคุณแม่นับเงินและแสดงความยินดีออกมาจากแววตาทำให้รู้สึกถึงความสุขที่แม่ได้รับ
จนหลาย ๆ ครั้งยังอดแซวแม่ไม่ได้ว่าแม่นั้นรักเงินมากกว่ารักลูก
ความมั่นคงปลอดภัยด้านการเงินน่าจะเป็นสิ่งที่แม่นึกถึงหลังจากแต่งงานกับพ่อเพราะแม่เกิดมาในครอบครัวที่ฐานะยากจนทางอิสานที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าวัยเด็กนั้นต้องเจอปัญหาอะไรมาบ้างและต้องอยู่อย่างเจียมตัว
แม่ขยันทำมาหากินจนไม่ต้องไปเป็นลูกหนี้ของใคร
ทำไมมันช่างแตกต่างจากลูกชายอย่างผมก็ไม่รู้
"เรียนๆ เข้าไป แม่ไม่มีโอกาสเรียน
ต้องออกมาเลี้ยงควายให้กับตากับยายตั้งแต่จบชั้น ป.2" คำพูดนี้ผมได้ยินตั้งแต่เด็กจนกระทั่งเรียนจบและมีงานทำและเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คอยดึงตัวผมให้อยู่กับความเป็นจริงที่ว่าผมจะทำให้แม่เหนื่อยเปล่าไม่ได้
ผมตรวจดูรายการตามที่แจ้งตามเอกสารและเก็บเอกสารทั้งหมดใส่ซองพลาสติก ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีและดำเนินไปอย่างที่เป็นได้ทุกวันนี้มันมีจุดเริ่มขึ้นมาตั้งแต่แม่อุ้มท้องผมเมื่อ
46 ปีก่อน ผมขอบคุณคุณแม่ที่สู้อุตส่าห์ทำงานหนัก
เลี้ยงลูกจนเติบใหญ่ สะสมเงินไว้เพื่อส่งลูกเรียนหนังสือ จนทำให้ผมและน้อง ๆ ได้มีที่ยืนในสังคมโดยไม่ต้องไปอายใครเขา วันแม่จะมาถึงอีกปีแล้ว ผมขอให้คุณแม่แข็งแรงสุขภาพดีและเข้าถึงธรรมมะของพระพุทธเจ้าอย่างลึกซึ้ง
เพื่อเป็นแสงสว่างนำทางชีวิตของแม่ตลอดไป
6 สิงหาคม 2559
ต้นจำปูนหลังบ้าน