“หน่องเอาสัปปะรดไปกินที่กรุงเทพด้วยนะ ซื้อเขากินมันแพง ของของเรามีเอง
ไม่ต้องเสียเงินซื้อ” เสียงพ่อผมร้องเตือนไล่หลังมา เมื่อเห็นผมสะพายกระเป๋าเดินไปที่รถเก๋งเพื่อจะกลับกรุงเทพ
ฯ ในเช้าวันอาทิตย์ ผมได้ยินแล้วก็หันกลับมามองหน้าพ่อผมเหมือนทุกครั้ง
แต่ครั้งนี้ผมนิ่งเงียบ และตอบกลับไปสั้น ๆ ว่า “ครับ”
และเดินกลับมาหยิบสัปปะรดลูกดังกล่าวติดมือไปไว้ในรถด้วย
จากนั้นก็เดินไปกล่าวลาพ่อ แม่ น้องสาว และที่จะขาดเสียมิได้หลานสาวคนเดียว น้องปูน
หลายปีที่ผ่านมาที่ผมมาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ เมื่อกลับไปเยี่ยมพ่อกับแม่ที่ระยองครั้งใด ก่อนจะกลับมากรุงเทพฯ ทุกครั้ง พ่อผมจะบอกให้ผมนำผลไม้ที่พ่อปลูกหรือหามาได้จากสวนหลังบ้านของพ่อให้ผมนำกลับมากินที่กรุงเทพเสมอ
ๆ แต่เพราะความคิดของผมที่ว่า
ผลไม้เหล่านั้น พ่อกับแม่สามารถนำไปขายและเปลี่ยนเป็นเงินได้ ผมก็เลยเลือกที่จะปฏิเสธ
พร้อมทั้งให้เหตุผลว่า
ผมไม่ชอบกินผลไม้พวกนั้น และไม่เคยซื้อกินที่กรุงเทพฯ
และทุกครั้งที่ผมเดินผ่านร้านขายผลไม้ถึงจะอยากกินแค่ไหนก็ตาม ผมก็ทำได้พียงหยิบมาดูราคา
แล้วก็บอกกับตัวเองว่า บ้านเราก็มี เดี่ยวก็กลับไปกินของพ่อก็ได้ หรือไม่ก็ “ราคาแพงไปหน่อย
เดี๋ยวกลับไปขอพ่อกินดีกว่า” แต่ก็ไม่เคยย่างกรายเข้าไปในสวนเพื่อเก็บผลไม้เหล่านั้นหากไม่ถูกพ่อกับแม่ขอร้องแกมบังคับ
“ใครมากินมะพร้าวอ่อนหมด ไม่เหลือให้เอาไปขายเลย” เสียงของแม่ในอดีตมักจะดังก้องอยู่ในหัวผมเสมอ
เมื่อเดินผ่านต้นมะพร้าวต้นเดิมที่ผมเคยปีนเก็บมะพร้าวลงมากินเมื่อนานมาแล้ว ในช่วงเวลาของวัยรุ่น
เงินทองมีไม่มากนัก ทางเลือกของการแก้หิวก็คือผลไม้ในสวนของพ่อกับแม่
เรื่องจะไปโขมยเงินของใครเพื่อเอามาบำบัดความสุขส่วนตัวไม่เคยอยู่ในหัวของผมเหมือนเด็กสมัยนี้
ถึงพ่อกับแม่จะเลี้ยงมาแบบคลุกดินคลุกทราย ไม่มีเงินให้ใช้สอยมากพอสำหรับของกินหรือเสื้อผ้าสวย
ๆ ที่นอกเหนือจากข้าว 3 มื้อ ผมก็หยิ่งเกินกว่าจะเดินไปขอใครหรือไปโกงใครเขากิน วันที่ผมได้ยินเสียงแม่บ่น น้ำตาของความน้อยใจเอ่อล้นคลอเบ้าตา
ความรู้สึกเสียใจที่ทำให้แม่หัวเสียและไม่มีของไปขายเอาเงินมาจุนเจือให้พี่น้องรวมทั้งตัวผมเองได้เรียนหนังสือมันพลุ่งพล่านอยู่ในอก
“ช่างมันเถิดนะ ต่อแต่นี้จะยอมอด
ไม่กินของในสวนของพ่อกับแม่อีก แม่จะได้มีของไปขายเอาเงิน” ความคิดตามประสาเด็ก ๆ
ผุดขึ้นมารวมกับทิฐิมานะที่ไม่รู้มันติดตามมาแต่หนไหน แต่ก็ทำให้ความคิดดังกล่าวติดตัวผมมาจนถึงปัจจุบัน
ผมขับรถกลับกรุงเทพ
ฯ เหมือนทุกครั้ง ความคิดล่องลอยไปแสนไกล
คงอีกนานทีเดียวกว่าผมจะเป็นผู้ใหญ่ในสายตาพ่อ แต่ช่างมันเถอะ
คราวหน้าผมจะไม่รอให้พ่อเรียกแล้ว ก็แค่เดินไปขอผลไม้ในสวนพ่อแล้วก็เก็บมาฝากคนที่ผมรักเท่านั้นเอง
27
พฤศจิกายน 2556
ต้นจำปูนหลังบ้าน