วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

Sc#15 ไปเที่ยวเขาใหญ่

                                          " ... บนถนนนหนทางซุปเปอร์ไฮย์เวย์ หนุ่มพเนจรมุ่งไปตามฝัน..." เสียงเพลงจากการขับร้องของต้อมเอกฟิสิกส์ดังมาจากกลางรถบัสขณะที่รถกำลังวิ่งขึ้นเนินในเส้นทางมุ่งสู่เขาใหญ่โดยมีกอล์ฟที่เล่นกีต้าร์ประกอบจังหวะ ส่วนอ๊อด หนุ่มหล่อท้อป 10 ประจำรุ่น 15 ของเราที่นั่งข้าง ๆ ก็คอยเคาะเบาะกำกับจังหวะไปด้วย พอถึงท่อนโซโล่ต้อมก็เป่าเมาท์ออแกนประกอบช่วยให้เพลงมีความสนุกสนานและทำให้บรรยากาศรอบข้างดีขึ้นไปอีก ส่วนผมเหลือบมองสมโภชน์ที่นั่งข้าง ๆ และพยายามร้องเพลงคลอไปกับเสียงของต้อม แต่ถ้าใครเคยฟังสมโภชน์ร้องเพลงก็จะรู้ว่านอกจากสมโภชน์จะพูดเสียงดังเวลาเราสนทนาเรื่องต่าง ๆ แล้ว เวลาสมโภชน์ร้องเพลงก็ยังร้องตกคีย์ ร้องคล่อมจังหวะ ผมเลยชวนสมโภชน์คุยเพื่อให้หยุดร้องเพลงแต่สมโภชน์ก็ยังไม่รู้ตัว จนผมต้องบอกมันว่า "สมโภชน์ …มาเที่ยวกับพวกเราด้วยหรือเปล่า" ผมเอ่ยชื่อเพื่อนหญิงร่วมคณะวิทยาศาสตร์ที่สมโภชน์มีความรู้สึกชอบพอออกมาให้สมโภชน์ได้ยิน ไม่เกินจากที่คิด สมโภชน์ทำหน้าระรื่นตอบผมมาโดยเร็วว่า "แน่ะ มณเฑียร อย่ามาแซวนะ เรามอง ๆ เค้าอยู่นะ มณเฑียร" นั่นแหละผมถึงสามารถหยุดเสียงร้องบาดยอดหญ้าคายามเช้าของเพื่อนสนิทของผมคนนี้ได้แล้วก็เลยชวนสมโภชน์คุยเรื่องอื่น ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่วายที่สมโภชน์จะหยุดคุยและหันไปร้องเพลงต่อจนผมต้องปล่อยให้เลยตามเลยและทนฟังเสียงสมโภชน์ต่อไประหว่างเดินทาง

                                             ความจริงผมก็จำไม่ได้หรอกว่า อะไรทำให้พวกเรา Quarter Science ตัดสินใจยกขโยงมาเที่ยวที่เขาใหญ่กันในครั้งนี้ ต้นเรื่องมันคงมาจากที่พวกเราคงจะเครียดกันมากขึ้นแล้วพวกเราก็เริ่มเรียนแยกสาขากันแล้วมันทำให้ความรู้สึกที่อยู่ในมหาวิทยาลัยแตกต่างไปจากการเรียนในชั้นปีที่ 1 เพราะต่างคนต่างเริ่มเรียนไม่ตรงกัน เวลาว่างไม่ตรงกัน และเพื่อนบางคนก็ย้ายไปเรียนที่ใหม่ (ว่าน,หมู,อั๋น,เกี้ย,โต้ง,เต้าเจี้ยว,เค,เจน,หนุ่ย,เม็ด ฯลฯ) แต่อย่างไรก็แล้วแต่ กิจกรรมนี้ก็เกิดขึ้นจนได้ ผมงี้ดีใจสุด ๆ เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยไปเที่ยวเขาใหญ่เลย

                                             พอนั่งรถไปอีกสักพัก เสียงเพลงจากต้อมก็เริ่มเงียบ ผมเลยสบายหูจากเสียงสมโภชน์ซะที นึกว่ามันจะแหกปากร้องต่อไปจนถึงที่พักซะแล้ว การที่ต้อมหยุดร้องเพลงอาจจะเพราะใกล้ถึงแล้ว เพื่อน ๆ ในรถคนอื่น ๆ ก็คุยกันไป เอวาริชเฮฮามาก ไม่รู้ดูดกัญชามาหรือเปล่า ก้อยกับต้องก็ไปด้วย (ไม่รู้ว่าทั้งคู่ไปเป็นคนรู้ใจกันเพราะไปเที่ยวเขาใหญ่ครั้งนี้หรือเปล่า) ที่แรกที่เราไปก็คือผากล้วยไม้จากนั้นก็ไปที่น้ำตกเหวสุวัติ คืนนั้นพวกเราก็ค้างกันที่ผากล้วยไม้ เมื่อทุกคนจัดการกับภารกิจส่วนตัวในช่วงหัวค่ำเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลากลางคืนพวกเราร่วมกันร้องเพลงรอบกองไฟ งานนี้เราได้นักกีต้าร์มือโปรคือ โก้เอกสถิติออกมาร่ายมนต์เล่นกีตาร์ให้เราฟัง สำหรับเพลงที่โก้เล่นขอให้พวกเราบอกโก้เถอะว่าเป็นเพลงอะไรโก้จะสามารถหาคอร์ดของเพลงและเล่นได้ทุกเพลงจริง ๆ ซึ่งเนื่องจากพวกเรามากันหลายคน ในการร้องเพลงรอบกองไฟจึงแบ่งเป็นสองวง นอกจากวงของผมที่มีผม สมโภชน์ อนันต์ ต้อง โก้และคนอื่น ๆ แล้ว อีกวงจะเป็นกอล์ฟที่เล่นกีต้าร์ มีอ๊อด คมกริช แพคและคนอื่น ๆ นั่งล้อมวงร้องเพลงกัน ซึ่งแนวเพลงที่กอล์ฟเล่นจะเป็นเพลงจากค่ายแกรมมี่ล้วน ๆ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเพราะอ๊อดที่นั่งอยู่ในวังนั้นเป็นสาวกแกรมมี่ทั้งกายและใจซึ่งบางครั้งอ๊อดก็เผลอเหยียดค่ายคู่แข่งของแกรมมี่ที่มีที่ทำการแถวลาดพร้าวออกมาให้ผมฟังโดยไม่รู้ตัวบ่อย ๆ ซึ่งถ้าใครร้องหรือฟังเพลงค่ายนั้นแล้วล่ะก็มันส่งสายตาดูถูกมาเยี่ยมเยือนทุกทีจนผมนึกขำเพราะผมฟังได้ทุกแนวขอให้เพลงที่บรรเลงนั้นเพราะเป็นใช้ได้ เวลาคืนนั้นผ่านไปเรื่อย ๆ ผมหลับไปตอนไหนไม่รู้ แต่เพื่อน ๆ หลายคนอยู่กันจนดึกดื่น อากาศช่วงนั้นก็หนาวสุด ๆ เหมือนกันเพราะพวกเราเดินทางกันไปเที่ยวเขาใหญ่ในช่วงปลายปีซึ่งเข้าหน้าหนาวแล้ว




                                                รุ่งเช้าพวกเรานั่งรถบัสไปเที่ยวที่น้ำตกเหวนรก ตอนไปถึงน้ำตกครั้งแรกผมได้แต่นึกในใจว่ามันเหวนรกตรงไหนกัน แต่พอลงไปที่ตีนน้ำตกเท่านั้นแหละความรู้สึกข้างในตัวผมบอกเลยว่าน้ำตกเหวนรกเป็นน้ำตกที่สวยมากจริง ๆ สวยจนไม่อาจจะบรรยายความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดได้ ที่ตีนน้ำตกพวกเราต่างพากันเล่นน้ำ ถ่ายรูป รูปหนึ่งที่ผมจำได้ติดตาคือ รูปอ๊อดดี้ถ่ายรูปกับเพ็ญศรีในใจก็คิดว่า หญิงก็สวย ชายก็หล่อ ส่วนคมกริชก็ถ่ายรูปปกับแพคซึ่งตอนนั้นต่างคนต่างก็มีความรู้สึกดี ๆ ต่อกันเช่นกัน ส่วนผมลงไปเล่นน้ำตกกับเขาด้วย การเล่นน้ำตกครั้งนั้นน้ำเย็นสุด ๆ แต่เพื่อนบางคนก็ไม่สนใจที่จะสัมผัสความเย็นสดชื่นของสายน้ำ ขอเน้นถ่ายรูปอย่างเดียว พอพวกเราเล่นกันน้ำกันหนำใจแล้วก็เดินทางกลับม.บูรพา ระหว่างกลับพอไม่มีใครร้องเพลงแล้ว คนขับรถก็เปิดเพลงให้ฟัง “… เก็บเอาคำว่าเสียใจ กองไว้ตรงนั้น เพราะมัน ไม่มีค่าอันใด… “ เพลงของคุณเจ เจตรินซึ่งเป็นนักร้องหน้าใหม่ของแกรมมี่ดังขึ้นมาตลอดทางที่เรากลับ ทุกวันนี้เจ มีลูก 4 คนแล้ว อายุลูกคุณเจก็เริ่มจะใกล้กับพวกเรา Quarter Science ในตอนที่ไปเที่ยวกัน แต่ผมยังไม่มีลูกเหมือนเค้าเลย

 

 

15 พฤษภาคม 2564

ต้นจำปูนหลังบ้าน

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น