หลังจากทำบุญครบ 100 วันในการจากไปของพ่อ ครอบครัวเราตัดสินใจเอาเถ้าอังคารและกระดูกที่เหลือจากการฌาปนกิจของพ่อที่เราเก็บรวบรวมไว้ในห่อผ้าไปลอยที่บริเวณเจดีย์กลางน้ำที่ตั้งอยู่ในบริเวณป่าโกงกางใกล้กับชายทะเลในตัวจังหวัด ผมเดินเข้าไปในห้องพ่อเพื่อหยิบห่อกระดูกหลังจากไม่ได้เข้าไปนาน สิ่งคุ้นตาหลาย ๆ อย่างวางอยู่ที่เดิม แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดในห้องคือภาพ 3 ภาพที่ตั้งอยู่บนเตียงที่พ่อเคยนอน สองภาพแรกเป็นภาพของคุณปู่คุณย่าที่เป็นพ่อและแม่ของคุณพ่อ ส่วนภาพสุดท้ายเป็นภาพพี่ชายผมที่จากไปด้วยอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์คว่ำเมื่อ 17 ปีก่อน ในบรรดาลูกทั้ง 4 คน พี่ชายเป็นคนที่หน้าตาน่ารัก นิสัยส่วนตัวก็ดีจนมีแต่คนรักใคร่ซึ่งแตกต่างจากผมที่หน้าตาไม่น่ารักแล้วยังพูดจาไม่น่าฟังและทำหน้าเคร่งขรึมอยู่เป็นนิจ สมัยยังเป็นวัยรุ่นผมเคยถามคำถามหนึ่งว่าในบรรดาลูกทั้ง 4 คนนั้นพ่อกับแม่รักใครมากที่สุด คำถามนี้ไม่เคยมีคำตอบออกมาจากปากพ่อแม้แต่ครั้งเดียวจนถึงวันที่พ่อจากไป ด้วยวัยที่โตขึ้นของผม การได้เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ได้รู้ได้เห็นสังคมรอบข้าง ได้คบเพื่อนแล้วก็เลิกรา ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมายจนวันหนึ่งผมก็ได้คำตอบที่ผมเคยถามพ่อ คำตอบที่ได้มันไม่ใช่การตอบคำถามของผมเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่เป็นคำตอบที่เป็นคำถามในใจของตัวผมเองว่า “เราจะสนใจทำไมว่าพ่อกับแม่รักใครมากที่สุด ตัวเรารักพ่อกับแม่มากที่สุดแล้วหรือยัง?”
ก่อนที่เถ้าอังคารและกระดูกของพ่อจะลอยหายไปในสายน้ำ
ผมทำได้แค่ยิ้มขอบคุณพ่อที่ได้เลี้ยงดูจนเติบใหญ่และมีโอกาสตอบแทนบุญคุณ
ได้ดูแลท่านในช่วงหนึ่งของชีวิต
พาท่านไปเที่ยวในที่ที่ท่านอยากไปโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย
แต่การลาจากเมื่อเวลามาถึงต่อให้เรากอดท่านไว้ให้แน่นแค่ไหนเราก็รั้งตัวท่านไว้ไม่ได้
สิ่งที่ทำให้ท่านได้ดีที่สุดคือทำในสิ่งที่ท่านรักคือดูแลคุณแม่และครอบครัวของพ่อที่เหลือให้ดีที่สุดก่อนที่ทุกคนจะต้องเดินทางแยกย้ายกันไปตามเส้นทางในวัฏสงสารแล้วก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราจะมาพบกันอีก
หากวันนี้ยังมีอวิชา ยังสงสัยในหลาย ๆ สิ่งที่เรายังหาคำตอบไม่ได้ แต่สิ่งที่เราไม่เคยสงสัยรวมถึงรับรู้ถึงความรักความเมตตาของพ่อกับแม่และสิ่งที่ดีงามอย่างการได้ดูแลพ่อแม่ของเรา
พวกเราทำมันได้ดีที่สุดและเต็มที่ที่สุดในช่วงเวลาที่เหลืออยู่น้อยนิดบนโลกใบนี้แล้วหรือยัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น