วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

คนทำงานเบื้องหลังที่สำคัญ

ทีม Manchester United ได้รับรางวัลการดูแลสนามได้อย่างยอดเยี่ยมมากที่สุดในบรรดา 20 ทีมของพรีเมียร์ลีกอังกฤษประจำฤดูกาล 2020-21 โดยฤดูกาลล่าสุดก่อนหน้าที่ได้รับรางวัลนี้คือฤดูกาล 2018-19

จากการที่ได้มีโอกาสไปเดินชมสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดในปี 2019 ต้องยอมรับว่าทีม United จัดการสนามได้ดีมากจริงๆ หญ้าเนียนสวยและน่าลงไปเล่นฟุตบอลมาก โดยส่วนตัวผมไม่ชอบคนที่เอาเรื่องนี้มาล้อกันอย่างสนุกสนานเลยนะเพราะคนที่เขาทำงานเบื้องหลังเขาก็มีอาชีพที่สุจริต ตั้งใจทุ่มเทให้กับงานที่เขารับผิดชอบจนสามารถชนะใจผู้ที่ให้คะแนนได้ สิ่งที่ควรทำคือยกย่องชมเชยอย่างจริงใจต่างหากไม่ใช่เอาไปล้อกันแบบที่เห็นกันในโซเชียล
ในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมาสนามที่ได้รับรางวัลจะวนเวียนอยู่กับ Arsenal และ Aston Villa มีบางปีทีม Watford ก็เคยได้รางวัลซึ่งหากไม่ตกชั้นลงไปในฤดูกาล 2019-20 ปีนี้ Watford ก็อาจจะเป็นคู่แข่งสำคัญของ Manchester United อีกทีมหนึ่งก็เป็นได้ ซึ่งผมอยากให้สนาม Anfield ได้รับรางวัลนี้ด้วยเหมือนกัน แต่ก็น่าจะยากสักหน่อยเพราะทีมที่กล่าวมาข้างต้นต่างก็มีการใส่ใจดูแลสนามที่ดีมากๆ และมีรางวัลการันตีความยอดเยี่ยมในการดูแลตลอดหลายปีหลังที่ผ่านมา



หากมองย้อนกลับไปเกือบ 40 ปีก่อนที่ฟุตบอลอังกฤษถูกถ่ายทอดมายังประเทศไทย สนามฟุตบอลในปัจจุบันมีการดูแลบำรุงรักษาและจัดการได้ดีขึ้นกว่าในอดีตมาก ผมไม่เห็นภาพสนามปกคลุมด้วยหิมะและต้องใช้ลูกฟุตบอลสีแดงเพื่อให้นักเตะเห็นบอลกันอย่างชัดเจนเวลาเล่นมานานมากแล้ว


29 พฤษภาคม 2564
ต้นจำปูนหลังบ้าน

วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

เราเลือกการปฏิบัติได้

หากคุณเชื่อในเรื่องของกฎแห่งกรรมสิ่งที่คุณควรทำก็คือการคิดดี พูดดีและทำดีซึ่งท้ายที่สุดแล้วสิ่งเหล่านี้แหละที่จะคุ้มครองตัวเราอยู่เสมอ ทุกวันนี้เสียงสะท้อนความคิดของแต่ละคนจะถูกส่งผ่านและเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียมากขึ้นทุกทีทั้งความคิดที่ดี ความคิดที่แย่จนไปถึงความคิดที่ชั่วช้าจนคิดไม่ถึงว่านี่คือความคิดของมนุษย์ที่กล้าคิดและแสดงออกให้คนอื่นรับรู้โดยไม่มีความละอายหนำซ้ำยังแสดงท่าทีภูมิอกภูมิใจเสียด้วยซ้ำ

ครั้งหนึ่งผมเคยมีความคิดว่าถ้าเรารู้ความคิดคนอื่นหรือสามารถอ่านใจคนได้ก็คงจะดีเพราะจะได้ลดการสื่อสารด้วยการพูดและสามารถรู้ใจคนที่เราสนใจได้แต่ถึงวันนี้เราคงไม่จำเป็นต้องมีความสามารถพิเศษขนาดนั้นเราก็สามารถรู้ความคิดคนอื่นได้จากการที่คนเหล่านั้นแสดงออกมาผ่านเครื่องมืออย่าง Facebook , twitter หรือเครื่องมือสื่อสารบนโซเชียลมีเดียอื่น ๆ แต่ผลของการรับรู้ความคิดคนอื่นผ่านสื่อเหล่านี้มันหนักหน่วงรุนแรงกว่าที่เคยคิดไว้มาก คนที่มีการศึกษาดีมีสถานะทางสังคมที่ดีพอถึงวันหนึ่งที่ได้ส่งผ่านความคิดออกมามันก็ไม่ต่างจากสัตว์ที่มุ่งหาแต่ความต้องการพื้นฐานของตัวเองและมุ่งแต่จะเสพในสิ่งที่ตัวเองชอบโดยไม่สนใจจริยธรรมจรรยาบรรณที่เป็นเครื่องแบ่งแยกคนให้แตกต่างจากสัตว์เหล่านั้นแต่อย่างใด
วันวิสาขบูชาที่เป็นวันประสูติ วันตรัสรู้และวันเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นหากจะมีสิ่งไหนที่อยากจะทำก็คงต้องมองย้อนกลับไปหาจุดเริ่มต้นนั่นก็คือการคิดดี พูดดีและทำดีโดยไม่ต้องไปสนใจกับเสียงรอบข้างที่มีทั้งบวกและลบเพราะท้ายที่สุดแล้วคนที่ได้รับผลจากการกระทำเหล่านั้นก็คือตัวเราเอง ถ้าเราคิดดีพูดดีและทำดีมากพอใครคงไม่มีอะไรมาฉุดให้เราไปในทิศทางที่เลวได้ยกเว้นเสียแต่ว่าสิ่งเหล่านั้นเราจะแกล้งทำมันออกมาและคิดว่ามันจะตบตาคนอื่นได้ตลอดไป

26 พฤษภาคม 2564
ต้นจำปูนหลังบ้าน

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ตรรกะวิธีคิดของคนบางจำพวกมีปัญหา

หากคุณมีเพื่อนหรือมีผู้นำกลุ่มมาบอกคุณว่าไม่ควรไปรับวัคซีน ซึ่งจะเพราะอะไรก็แล้วแต่ทั้ง ๆ ที่สถานการณ์ทั่วโลกสถานการณ์ของ COVID-19 กำลังวิกฤติหนัก มีคนติดเชื้อและคนตายที่มีการรายงานกันรายวันและมีผลทำให้ระบบเศรษฐกิจพังพาบไปทั้งโลก คนตกงาน คนเสียธุรกิจที่ทำมานาน สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่ทุกคนควรจะให้ความสำคัญและทางรอดเดียวในตอนนี้คือการรับวัคซีนโดยเร็วที่สุด คุณว่าคนพวกนี้เป็นคนสันดานแบบไหน ผมเบื่อกับคำว่าวาทกรรม โดยเฉพาะวาทกรรมจากคนโง่ คนโง่ที่อ่านข้อมูลขาดๆ เกินๆ ในโซเชียลมีเดียแล้วคัดลอกข้อความด้วย Ctrl+C และนำไปแปะด้วย Ctrl+V พร้อมทั้งปรับแต่งข้อความนิดหน่อยโดยไม่ได้ผ่านการวิเคราะห์ผ่านสมองและที่สำคัญคนเหล่านั้นขาดความปรารถนาดีต่อเพื่อนร่วมโลก มุ่งเน้นแต่การหาผลประโยชน์จากความโกลาหลของสถานการณ์ที่ในรอบ 100 ปีจะเกิดซักครั้ง แล้วสิ่งที่ได้ก็เป็นอย่างที่เห็น คนพวกนั้นมันเหมือนพวกหมาไนหรือฝูงแร้งที่คอยกินซากศพที่กองระเกะระกะเหลือจากการเป็นอาหารของสัตว์ล่าเนื้อเหมือนอดอยากมาทั้งชีวิต แทนที่มันจะทำตัวเป็นหน่วยเทศกิจระดมเก็บซากศพเพื่อนำไปฝังทำลายไม่ให้เกิดการแพร่กระจายจนเป็นภาพอุจาดตาหรือความเสี่ยงในโรคระบาดที่อาจจะติดกันมาหรือร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้เป็นในทางที่ถูกที่ควร และก็อย่างที่เห็นคนพวกนี้เป็นคนหน้าเดิม กลุ่มเดิม ๆ ที่ออกมาต่อต้านการรับวัคซีนตามที่รัฐบาลได้เชิญชวน ตลอดชีวิตที่ได้พูดคุยกับคนมากหน้าหลายตาสิ่งหนึ่งที่เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับรู้คือ คนเราหากเงียบเราจะไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร แต่พอพูดออกมาเราจะรู้จักเขาผ่านคำพูดและเจตนาที่ส่งผ่านออกมาพร้อมกัน การที่จะทำอะไรก็ได้เพื่อให้คนไม่ยอมรับวัคซีนเขาทำมันไปเพื่ออะไร

หลังจากทางรัฐเปิดให้บริการฉีดวัคซีน COVID-19 ผมโทรศัพท์ไปสอบถามคุณแม่ว่าได้ดำเนินการหรือยังซึ่งคุณแม่บอกว่าให้ลูกสาวดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่รอวันนัดเข้ารับวัคซีนให้เรียบร้อย แม่ผมจบป. 2 ไม่ใช่หมอ ไม่ใช่ดารา ไม่ใช่นักร้องหรือดีเจที่สถานีไหน ๆ เป็นแค่ประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่งที่รักสถาบันและประเทศชาติ แต่ผมว่าแม่ผมมีวิธีคิดและมีคุณธรรมตลอดจนมีความปรารถนาดีที่จะให้ประเทศไทยและโลกของเรามันยังดำรงอยู่และสวยงามมากกว่าคนในอาชีพที่ถือว่าอยู่แถวหน้าของประเทศไทยบางคนมากมายนักด้วยการทำสิ่งง่ายๆ แค่การไปรับวัคซีน


20 พฤษภาคม 2564
ต้นจำปูนหลังบ้าน

วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

คำถามที่ไม่มีคำตอบ

                                                หลังจากทำบุญครบ 100 วันในการจากไปของพ่อ ครอบครัวเราตัดสินใจเอาเถ้าอังคารและกระดูกที่เหลือจากการฌาปนกิจของพ่อที่เราเก็บรวบรวมไว้ในห่อผ้าไปลอยที่บริเวณเจดีย์กลางน้ำที่ตั้งอยู่ในบริเวณป่าโกงกางใกล้กับชายทะเลในตัวจังหวัด ผมเดินเข้าไปในห้องพ่อเพื่อหยิบห่อกระดูกหลังจากไม่ได้เข้าไปนาน สิ่งคุ้นตาหลาย ๆ อย่างวางอยู่ที่เดิม แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดในห้องคือภาพ 3 ภาพที่ตั้งอยู่บนเตียงที่พ่อเคยนอน สองภาพแรกเป็นภาพของคุณปู่คุณย่าที่เป็นพ่อและแม่ของคุณพ่อ ส่วนภาพสุดท้ายเป็นภาพพี่ชายผมที่จากไปด้วยอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์คว่ำเมื่อ 17 ปีก่อน ในบรรดาลูกทั้ง 4 คน พี่ชายเป็นคนที่หน้าตาน่ารัก นิสัยส่วนตัวก็ดีจนมีแต่คนรักใคร่ซึ่งแตกต่างจากผมที่หน้าตาไม่น่ารักแล้วยังพูดจาไม่น่าฟังและทำหน้าเคร่งขรึมอยู่เป็นนิจ สมัยยังเป็นวัยรุ่นผมเคยถามคำถามหนึ่งว่าในบรรดาลูกทั้ง 4 คนนั้นพ่อกับแม่รักใครมากที่สุด คำถามนี้ไม่เคยมีคำตอบออกมาจากปากพ่อแม้แต่ครั้งเดียวจนถึงวันที่พ่อจากไป ด้วยวัยที่โตขึ้นของผม การได้เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ได้รู้ได้เห็นสังคมรอบข้าง ได้คบเพื่อนแล้วก็เลิกรา ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมายจนวันหนึ่งผมก็ได้คำตอบที่ผมเคยถามพ่อ คำตอบที่ได้มันไม่ใช่การตอบคำถามของผมเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่เป็นคำตอบที่เป็นคำถามในใจของตัวผมเองว่า “เราจะสนใจทำไมว่าพ่อกับแม่รักใครมากที่สุด ตัวเรารักพ่อกับแม่มากที่สุดแล้วหรือยัง?”




                                                ก่อนที่เถ้าอังคารและกระดูกของพ่อจะลอยหายไปในสายน้ำ ผมทำได้แค่ยิ้มขอบคุณพ่อที่ได้เลี้ยงดูจนเติบใหญ่และมีโอกาสตอบแทนบุญคุณ ได้ดูแลท่านในช่วงหนึ่งของชีวิต พาท่านไปเที่ยวในที่ที่ท่านอยากไปโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย แต่การลาจากเมื่อเวลามาถึงต่อให้เรากอดท่านไว้ให้แน่นแค่ไหนเราก็รั้งตัวท่านไว้ไม่ได้ สิ่งที่ทำให้ท่านได้ดีที่สุดคือทำในสิ่งที่ท่านรักคือดูแลคุณแม่และครอบครัวของพ่อที่เหลือให้ดีที่สุดก่อนที่ทุกคนจะต้องเดินทางแยกย้ายกันไปตามเส้นทางในวัฏสงสารแล้วก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราจะมาพบกันอีก หากวันนี้ยังมีอวิชา ยังสงสัยในหลาย ๆ สิ่งที่เรายังหาคำตอบไม่ได้ แต่สิ่งที่เราไม่เคยสงสัยรวมถึงรับรู้ถึงความรักความเมตตาของพ่อกับแม่และสิ่งที่ดีงามอย่างการได้ดูแลพ่อแม่ของเรา พวกเราทำมันได้ดีที่สุดและเต็มที่ที่สุดในช่วงเวลาที่เหลืออยู่น้อยนิดบนโลกใบนี้แล้วหรือยัง

 

18 พฤษภาคม 2564

ต้นจำปูนหลังบ้าน


วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

Sc#15 ไปเที่ยวเขาใหญ่

                                          " ... บนถนนนหนทางซุปเปอร์ไฮย์เวย์ หนุ่มพเนจรมุ่งไปตามฝัน..." เสียงเพลงจากการขับร้องของต้อมเอกฟิสิกส์ดังมาจากกลางรถบัสขณะที่รถกำลังวิ่งขึ้นเนินในเส้นทางมุ่งสู่เขาใหญ่โดยมีกอล์ฟที่เล่นกีต้าร์ประกอบจังหวะ ส่วนอ๊อด หนุ่มหล่อท้อป 10 ประจำรุ่น 15 ของเราที่นั่งข้าง ๆ ก็คอยเคาะเบาะกำกับจังหวะไปด้วย พอถึงท่อนโซโล่ต้อมก็เป่าเมาท์ออแกนประกอบช่วยให้เพลงมีความสนุกสนานและทำให้บรรยากาศรอบข้างดีขึ้นไปอีก ส่วนผมเหลือบมองสมโภชน์ที่นั่งข้าง ๆ และพยายามร้องเพลงคลอไปกับเสียงของต้อม แต่ถ้าใครเคยฟังสมโภชน์ร้องเพลงก็จะรู้ว่านอกจากสมโภชน์จะพูดเสียงดังเวลาเราสนทนาเรื่องต่าง ๆ แล้ว เวลาสมโภชน์ร้องเพลงก็ยังร้องตกคีย์ ร้องคล่อมจังหวะ ผมเลยชวนสมโภชน์คุยเพื่อให้หยุดร้องเพลงแต่สมโภชน์ก็ยังไม่รู้ตัว จนผมต้องบอกมันว่า "สมโภชน์ …มาเที่ยวกับพวกเราด้วยหรือเปล่า" ผมเอ่ยชื่อเพื่อนหญิงร่วมคณะวิทยาศาสตร์ที่สมโภชน์มีความรู้สึกชอบพอออกมาให้สมโภชน์ได้ยิน ไม่เกินจากที่คิด สมโภชน์ทำหน้าระรื่นตอบผมมาโดยเร็วว่า "แน่ะ มณเฑียร อย่ามาแซวนะ เรามอง ๆ เค้าอยู่นะ มณเฑียร" นั่นแหละผมถึงสามารถหยุดเสียงร้องบาดยอดหญ้าคายามเช้าของเพื่อนสนิทของผมคนนี้ได้แล้วก็เลยชวนสมโภชน์คุยเรื่องอื่น ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่วายที่สมโภชน์จะหยุดคุยและหันไปร้องเพลงต่อจนผมต้องปล่อยให้เลยตามเลยและทนฟังเสียงสมโภชน์ต่อไประหว่างเดินทาง

                                             ความจริงผมก็จำไม่ได้หรอกว่า อะไรทำให้พวกเรา Quarter Science ตัดสินใจยกขโยงมาเที่ยวที่เขาใหญ่กันในครั้งนี้ ต้นเรื่องมันคงมาจากที่พวกเราคงจะเครียดกันมากขึ้นแล้วพวกเราก็เริ่มเรียนแยกสาขากันแล้วมันทำให้ความรู้สึกที่อยู่ในมหาวิทยาลัยแตกต่างไปจากการเรียนในชั้นปีที่ 1 เพราะต่างคนต่างเริ่มเรียนไม่ตรงกัน เวลาว่างไม่ตรงกัน และเพื่อนบางคนก็ย้ายไปเรียนที่ใหม่ (ว่าน,หมู,อั๋น,เกี้ย,โต้ง,เต้าเจี้ยว,เค,เจน,หนุ่ย,เม็ด ฯลฯ) แต่อย่างไรก็แล้วแต่ กิจกรรมนี้ก็เกิดขึ้นจนได้ ผมงี้ดีใจสุด ๆ เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยไปเที่ยวเขาใหญ่เลย

                                             พอนั่งรถไปอีกสักพัก เสียงเพลงจากต้อมก็เริ่มเงียบ ผมเลยสบายหูจากเสียงสมโภชน์ซะที นึกว่ามันจะแหกปากร้องต่อไปจนถึงที่พักซะแล้ว การที่ต้อมหยุดร้องเพลงอาจจะเพราะใกล้ถึงแล้ว เพื่อน ๆ ในรถคนอื่น ๆ ก็คุยกันไป เอวาริชเฮฮามาก ไม่รู้ดูดกัญชามาหรือเปล่า ก้อยกับต้องก็ไปด้วย (ไม่รู้ว่าทั้งคู่ไปเป็นคนรู้ใจกันเพราะไปเที่ยวเขาใหญ่ครั้งนี้หรือเปล่า) ที่แรกที่เราไปก็คือผากล้วยไม้จากนั้นก็ไปที่น้ำตกเหวสุวัติ คืนนั้นพวกเราก็ค้างกันที่ผากล้วยไม้ เมื่อทุกคนจัดการกับภารกิจส่วนตัวในช่วงหัวค่ำเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลากลางคืนพวกเราร่วมกันร้องเพลงรอบกองไฟ งานนี้เราได้นักกีต้าร์มือโปรคือ โก้เอกสถิติออกมาร่ายมนต์เล่นกีตาร์ให้เราฟัง สำหรับเพลงที่โก้เล่นขอให้พวกเราบอกโก้เถอะว่าเป็นเพลงอะไรโก้จะสามารถหาคอร์ดของเพลงและเล่นได้ทุกเพลงจริง ๆ ซึ่งเนื่องจากพวกเรามากันหลายคน ในการร้องเพลงรอบกองไฟจึงแบ่งเป็นสองวง นอกจากวงของผมที่มีผม สมโภชน์ อนันต์ ต้อง โก้และคนอื่น ๆ แล้ว อีกวงจะเป็นกอล์ฟที่เล่นกีต้าร์ มีอ๊อด คมกริช แพคและคนอื่น ๆ นั่งล้อมวงร้องเพลงกัน ซึ่งแนวเพลงที่กอล์ฟเล่นจะเป็นเพลงจากค่ายแกรมมี่ล้วน ๆ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเพราะอ๊อดที่นั่งอยู่ในวังนั้นเป็นสาวกแกรมมี่ทั้งกายและใจซึ่งบางครั้งอ๊อดก็เผลอเหยียดค่ายคู่แข่งของแกรมมี่ที่มีที่ทำการแถวลาดพร้าวออกมาให้ผมฟังโดยไม่รู้ตัวบ่อย ๆ ซึ่งถ้าใครร้องหรือฟังเพลงค่ายนั้นแล้วล่ะก็มันส่งสายตาดูถูกมาเยี่ยมเยือนทุกทีจนผมนึกขำเพราะผมฟังได้ทุกแนวขอให้เพลงที่บรรเลงนั้นเพราะเป็นใช้ได้ เวลาคืนนั้นผ่านไปเรื่อย ๆ ผมหลับไปตอนไหนไม่รู้ แต่เพื่อน ๆ หลายคนอยู่กันจนดึกดื่น อากาศช่วงนั้นก็หนาวสุด ๆ เหมือนกันเพราะพวกเราเดินทางกันไปเที่ยวเขาใหญ่ในช่วงปลายปีซึ่งเข้าหน้าหนาวแล้ว




                                                รุ่งเช้าพวกเรานั่งรถบัสไปเที่ยวที่น้ำตกเหวนรก ตอนไปถึงน้ำตกครั้งแรกผมได้แต่นึกในใจว่ามันเหวนรกตรงไหนกัน แต่พอลงไปที่ตีนน้ำตกเท่านั้นแหละความรู้สึกข้างในตัวผมบอกเลยว่าน้ำตกเหวนรกเป็นน้ำตกที่สวยมากจริง ๆ สวยจนไม่อาจจะบรรยายความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดได้ ที่ตีนน้ำตกพวกเราต่างพากันเล่นน้ำ ถ่ายรูป รูปหนึ่งที่ผมจำได้ติดตาคือ รูปอ๊อดดี้ถ่ายรูปกับเพ็ญศรีในใจก็คิดว่า หญิงก็สวย ชายก็หล่อ ส่วนคมกริชก็ถ่ายรูปปกับแพคซึ่งตอนนั้นต่างคนต่างก็มีความรู้สึกดี ๆ ต่อกันเช่นกัน ส่วนผมลงไปเล่นน้ำตกกับเขาด้วย การเล่นน้ำตกครั้งนั้นน้ำเย็นสุด ๆ แต่เพื่อนบางคนก็ไม่สนใจที่จะสัมผัสความเย็นสดชื่นของสายน้ำ ขอเน้นถ่ายรูปอย่างเดียว พอพวกเราเล่นกันน้ำกันหนำใจแล้วก็เดินทางกลับม.บูรพา ระหว่างกลับพอไม่มีใครร้องเพลงแล้ว คนขับรถก็เปิดเพลงให้ฟัง “… เก็บเอาคำว่าเสียใจ กองไว้ตรงนั้น เพราะมัน ไม่มีค่าอันใด… “ เพลงของคุณเจ เจตรินซึ่งเป็นนักร้องหน้าใหม่ของแกรมมี่ดังขึ้นมาตลอดทางที่เรากลับ ทุกวันนี้เจ มีลูก 4 คนแล้ว อายุลูกคุณเจก็เริ่มจะใกล้กับพวกเรา Quarter Science ในตอนที่ไปเที่ยวกัน แต่ผมยังไม่มีลูกเหมือนเค้าเลย

 

 

15 พฤษภาคม 2564

ต้นจำปูนหลังบ้าน

 

วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

สถานการณ์สร้างวีรบุรุษในขณะเดียวกันมันก็ทำให้ทองลอกด้วยเหมือนกัน

หลายๆ ครั้งที่สอบถามภรรยาว่าเราจะยกเลิกการบอกรับสมาชิก True Vision ไหมเพราะระยะหลังแทบไม่มีอะไรน่าสนใจ อีกทั้งหลังจากคุณพ่อที่ระยองเสียชีวิตก็แทบไม่มีคนดูรายการของ True Vision จนต้องไปยกกล่องรับสัญญาณกลับมาไว้ที่บ้านแต่ภรรยาที่เป็นแฟนฟุตบอลทีม Liverpool และกีฬาแกรนด์แสลมอย่างเทนนิสหรือแบดมินตั้นรายการต่างๆ ที่นักกีฬาไทยยังพอได้ไปอวดฝีไม้ลายมือได้ไม่อายใครก็ยังขอให้เป็นสมาชิกต่อไปเลยต้องยอมตามใจ สำหรับรายการฟุตบอลลีกอังกฤษอย่างพรีเมียร์ลีก ก่อนเกมระหว่างเกมและหลังเกมจะมีผู้เชี่ยวชาญในกีฬาฟุตบอลออกมาให้ข้อมูลรวมไปถึงทำนายผล ผมก็ดูมั่งไม่ดูมั่งเพราะยังไงข่าวสารพวกนี้เราหาอ่านได้จากต้นแหล่งข่าวหรือถ้าสงสัยในบางเรื่องก็สอบถามกูรูที่รู้จักและเต็มใจตอบคำถามรวมถึงให้คำแนะนำที่ดีกับเรา

เกริ่นมาซะยืดยาวเพียงเพราะเมื่อวานมีคอมเมนเตเตอร์ของฟุตบอลอังกฤษที่เรารับชมผ่านช่องของ True Vision ออกมาทวีตข้อความสอบถามว่า “วัคซีนที่ผลิตเองนี่ ได้ฉีดปีไหน” อารมณ์ทำนองด้อยค่าทีมงานรัฐบาลว่าไม่ได้ทำอะไรกันเลย เท่านั้นจริงๆ ที่ทำให้รู้สึกว่เสียเวลาอ่านคอลัมภ์เขามาเสียหลายปีแล้วกลับมาพบว่าเขาไม่มีอะไรเลย และการที่เขาเติบโตมาในเส้นทางสายข่าวกีฬา เป็นนักข่าวคนหนึ่งที่วิชาชีพน่าจะสอนให้เขารู้จักหาความรู้ที่ไม่ใช่ข่าวกีฬาแต่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่สำคัญและนำมานำเสนอให้คนทั่วไปรู้โดยผ่านการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ (ค.ว.ย.) ก่อนที่จะพ่นอะไรออกมา หรือหากเขาจะไม่รู้จริงๆ ตามที่บอกมาก็ช่วยประชาสัมพันธ์หรือกระตุ้นให้คนที่เข้าเกณฑ์กำหนดการได้รับวัคซีนให้มาลงทะเบียนรับวัคซีนก็ยังดี
อย่างนี้หรือเปล่าถึงได้บอกกันว่าการจะรู้จักใครซักคนให้ลึกซึ้งมันต้องเกิดวิกฤติหรือมีสถานการณ์มาบีบคั้นจนคนคนนั้นเผยธาตุแท้ออกมา


12 พฤษภาคม 2564
ต้นจำปูนหลังบ้าน