หลังจากตัดสินใจซื้อบ้านหลังใหม่เมื่อ 5 ปีก่อน ผมกับภรรยาก็ย้ายเข้าใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้ด้วยกันอย่างมีความสุข
บ้านหลังใหม่เป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นหลังเล็ก ๆ ใกล้ที่ทำงานของภรรยาเพื่อความสะดวกในการเดินทางไปทำงานที่อุทยานวิทยาศาสตร์
โดยตัวบ้านตั้งอยู่ที่คลองหนึ่ง จ. ปทุมธานี
ภรรยาผมตั้งชื่อบ้านว่าบ้านเทียนนุช ๙๐ มาจากชื่อเล่นของเราทั้งสองคนมารวมกัน
สิ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดหลังเข้ามาอยู่ในบ้านใหม่นี้ก็คือภรรยามีความสุขขึ้นมากซึ่งแตกต่างจากการอยู่ทาวน์เฮ้าส์หลังเดิมที่ในแต่ละวันต้องพบเจอคนหลายแบบ
มีปัญหาสารพัดทั้งเพื่อนร่วมหมู่บ้าน สถานที่จอดรถ ระบบสาธารณูปโภค
ที่สำคัญคือมีที่ว่างสำหรับปลูกดอกไม้และต้นไม้ที่ภรรยาชอบซึ่งบ้านหลังเก่าไม่มีพื้นที่สำหรับปลูกดอกไม้เลย
“คุณเทียน เค้าอยากได้ต้นจำปีสีนวล คุณช่วยหามาปลูกให้ด้วยนะ”
นี่คือคำขอแรกที่ภรรยาบอกผมหลังจากย้ายเข้ามาบ้านใหม่นี้
ผมรับทราบและหาต้นจำปีมาปลูกให้หลังจากย้ายเข้าบ้านในอีก 2 เดือนต่อมา
ต้นจำปีต้นนี้เพื่อนผมสมัยประถมมอบให้และมีข้อแม้ว่าหากเมื่อไหร่ที่ต้นจำปีต้นนี้มีดอกขอให้แจ้งให้เขาให้ทราบด้วย ในสองปีแรกต้นจำปีเติบโตสูงใหญ่อย่างรวดเร็ว
เร็วจนคิดว่าเค้าต้องให้ดอกในปีที่สองที่นำมาปลูก
แต่ก็ไม่เห็นว่าจำปีต้นนี้จะให้ดอกเสียที จนผมพูดกับต้นจำปีว่า
ถ้าไม่ให้ดอกผมจะตัดทิ้งแล้วนะ จำปีต้นนี้ก็ไม่ยอมออกดอก
จนวันหนึ่งผมตัดสินใจตัดต้นจำปีลงครึ่งหนึ่งและบอกว่า
ถ้าปีหน้ายังไม่มีดอกจะโค่นต้นทิ้งแล้วนะ
เวลาผ่านไปอีกหนึ่งปีระหว่างนั้นต้นจำปีก็แตกกิ่งและเติบใหญ่ขึ้นมากไปกว่าเดิม
และสิ่งดี ๆ ที่ตามมาก็คือมีดอกจำปีมาให้ดู 2 ดอก
เพราะดอกจำปีที่ออกมานี้เองทำให้ต้นจำปีอยู่รอดปลอดภัยจนถึงปีที่สี่
ในปีที่สี่ต้นจำปีออกดอกมากขึ้นจนสร้างรอยยิ้มบนใบหน้าภรรยาที่หาไม้มาสอยจากหน้าต่างชั้นสองและใต้ต้นจำปีเอง
ผมแอบยิ้มขำ ๆ เมื่อภรรยาเอาดอกจำปีมาอวดและถ่ายรูปลงใน Social Media อย่าง Facebook ส่วนผมก็ทำหน้าที่กด Like และรดน้ำดอกไม้อื่น ๆ
ที่ภรรยาหามาปลูกรอบบ้านต่อไปตามประสาสามีที่ต้องดูแลความรู้สึกของภรรยาให้รู้สึกอบอุ่นและมีความสุขในขณะที่เราใช้ชีวิตด้วยกัน
และในปีที่ 5 นี้เองจำปีก็ให้ดอกมากขึ้นเรื่อย
ๆ จนภรรยาเก็บเอาไปที่ทำงานทุกวัน วันละ 3 – 5 ดอก
ถึงวันนี้ต้นจำปีถือว่าเป็นจุดคิดให้เราสองคนนึกถึงสิ่งที่ผ่านมาตลอด 5
ปีและหวังว่าจะมีความทรงจำที่ดีเพิ่มขึ้นตลอดไป
13 มีนาคม 2563
ต้นจำปูนหลังบ้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น