ผมรอวันที่จะกลับไปเจอเพื่อนๆ บางแสนอย่างใจจดใจจ่อในงานแต่งงานนก นก ฉัตรชัยจะแต่งงานกับแฟนสาวที่รักกันมานานนับ
10
ปี วันอาทิตย์ที่ 25
พฤศจิกายน 2555 ถ้านับถึงปัจจุบันพวกเรา QSBUU
เกือบทุกคนต่างก็มีอายุผ่านเข้าหลักสี่กันหมดแล้ว ในระยะหลัง
เมื่อความนิยมในการใช้ Facebook แพร่หลายมากขึ้น หลาย ๆ
คนเริ่มจะเอารูปลูก ๆ ที่น่ารักของแต่ละคนออกมาอวดกันผ่านหน้า Wall ส่วนผมคิดว่าคงไม่มีโอกาสมีลูกเนื่องจากภรรยาไม่ค่อยจะแข็งแรงนัก
หากพูดถึงการแต่งงานของเพื่อน
ๆ คู่ของสุกิจกับสาวนุ้ย นิสิตร่วมรุ่นรหัส 33 จากคณะมนุษยศาสตร์
เป็นคู่ที่ผมยังประทับใจไม่ลืม ในวันคริสมาสอีฟ ปี 2535 ช่วงเย็นวันหนึ่ง สุชาติ อู่ตะเภาหรือกวัก
หนุ่มหล่อเข้มจากคณะศึกษาศาสตร์ เดินเข้ามาหาผม สุกิจ พลางพูดด้วยเสียงร่าเริงว่า “ เทียน วันนี้เราไปกินขนมฟรีกันหรือเปล่า ที่โบสถ์คริสข้าง ๆ หอเราเนี่ย
เค้ามีงานวันคริสมาสต์กัน” ผมพยักหน้ารับพร้อมบถามออกไปว่า “เฮ้ย กวัก เราไม่ได้นับถือคริสต์ แล้วเราจะไปร่วมงานเค้าได้หรือ “ “ไม่หรอก
มณเฑียร เค้าเชิญผมมาและก็ให้พาเพื่อน ๆ ไปร่วมงานได้ ปเหอะ ดีกว่าอยู่เปล่า ๆ
อย่าคิดมากสิ” กวักตอบมาพลาง
บอกรายละเอียดอื่น ๆ จนผมแน่ใจว่าไม่ถูกหลอกไปกินฟรี
ช่วงใกล้สิ้นเดือนของเด็กชาวหอทุกคนมันยาวนานอยู่เหมือนกัน ถ้ามีงานแบบนี้ก็ไม่น่าที่จะปฏิเสธหรอก
หลังจากนั้นผมก็นัดหมายเพื่อน ๆ ที่สนใจจะไปร่วมงาน พวกเราเท่าที่จำได้มีผม สุกิจ
เปี๊ยก และตัวต้นเรื่อง กวัก
ถึงเวลาจะผ่านมา 20 ปีแล้วก็ตาม แต่ผมยังจำสภาพอากาศคืนนั้นได้เป็นอย่างดี
อากาศช่วงหัวค่ำวันนั้นเย็นจนถึงขั้นหนาว ผมต้องหาเสื้อหนา ๆ มาใส่ทับอีกชั้น พวกเราเดินออกไปทางหน้า มหาวิทยาลัยบูรพา ไปทางขวามือเลียบไปตามรั้วมหาวิทยาลัย เมื่อถึงที่หมายก็เดินเข้าไปในบริเวณโบสถ์
ตัวโบสถ์จะอยู่ห่างจากประตูหน้าพอสมควร เมื่อเข้าไปถึง มันเหมือนพวกเราหลุดไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง
บรรยากาศด้านในจะมีการร้องเพลงเกี่ยวกับวันคริสมาส การเสียสละของพระเยซู
ซึ่งไถ่บาปแทนมนุษย์ แสงสีต่าง ๆ ประดับประดาบนต้นคริสมาสแลดูสวยงามเย็นตาและแฝงไปด้วยพลังแห่งความศรัทธา คริสตศาสนาเป็นศาสนาหนึ่งที่ผมคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก
ผมเลยไม่แปลกใจนักที่คืนนี้จะมีคนเข้ามาร่วมงานมากพอสมควร
หลังจากเสร็จพิธีต่าง ๆ แล้ว
กวักตักไอศครีมมาให้ผม ผมเหลียวมองหาสุกิจเพื่อจะชวนมาทานไอศครีมด้วยกัน โดยปกติ
สุกิจจะอยู่ข้าง ๆ ผมเสมอ ๆ ไม่ว่าจะไปทำธุระกันที่ไหน แต่ในคืนนั้น
สุกิจเหมือนคนต้องมนต์สะกด เพราะไกลออกไปจากจุดที่ผมนั่ง
สาวน้อยนางหนึ่งที่ที่ผิวขาว ดูโดดเด่น ยืนคอยให้ความช่วยเหลือแขกที่มาร่วมงาน คอยตักไอศครีมให้กับคนที่เวียนกันเข้ามาขอ
ใกล้ ๆ กันนั้นผมเห็นสุกิจร่างสูงใหญ่ก็ยืนคอยช่วยเหลือสาวคนนั้นอยู่อย่างขมักเขม้น
โดยสุกิจแทบจะทำแทนไปเสียทุกอย่าง จนเมื่อคนเริ่มบางตาลง
สุกิจก็เดินเข้ามาบอกผมว่า “เฮ้ย เทียน
คืนนี้อย่าพึ่งกลับนะ เดี๋ยวอยู่กินไอศครีมกันก่อน” ผมตาค้างมองสุกิจอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
ถ้าให้เดาก็คงเดาไม่ยากว่าอะไรจึงทำให้สุกิจรีรอ ไม่ยอมกลับหอกันเสียที คืนนั้นอากาศหนาวมาก ไอศครีมก็แข็งจนแทบจะกัดไม่เข้า
แต่สุกิจก็ยังตักไอศครีมมาเติมให้ผมกับกวักอยู่เสมอ เพราะต้องการให้ผมรออยู่เป็นเพื่อน
ผมกับกวักนั่งกินไอศครีมกันจนร่างกายเย็นไปหมด
แต่สุกิจก็คงไม่รับรู้อะไร เพราะคืนนั้นในหัวใจคงอบอุ่นอยู่พิกล ตอนที่มาโบสต์กันเมื่อหัวค่ำผมคิดว่าวันคริสมาสต์
คงจะมีแต่เรื่องของพระเยซู ซะอีก ก็เพิ่งจะคืนนั้นนั่นแหละที่คิวปิดตัวน้อย
มาร่วมงานและแผลงศรรักเข้าปักหัวใจสุกิจอย่างจัง
คืนนั้นกว่าจะกลับหอพักก็ดึกมากแล้ว พวกเราทุกคนง่วงนอนกันมาก จะมีก็แต่สุกิจคนเดียวล่ะมั้งที่ดูเหมือนว่าจะตื่นอยู่ด้วยใจเป็นสุข
และก็คงภาวนาให้ถึงวันรุ่งขึ้นเร็ว ๆ
เพื่อจะได้สานต่อความรู้สึกวันคริสมาต์อีฟกับสาวสวยคนนั้นไปจนชั่วชีวิต
19
พฤศจิกายน 2555
ต้นจำปูนหลังบ้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น