วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ความรักในคืนคริสมาต์อีฟ


                    ผมรอวันที่จะกลับไปเจอเพื่อนๆ  บางแสนอย่างใจจดใจจ่อในงานแต่งงานนก   นก ฉัตรชัยจะแต่งงานกับแฟนสาวที่รักกันมานานนับ 10 ปี วันอาทิตย์ที่  25  พฤศจิกายน 2555  ถ้านับถึงปัจจุบันพวกเรา QSBUU เกือบทุกคนต่างก็มีอายุผ่านเข้าหลักสี่กันหมดแล้ว ในระยะหลัง เมื่อความนิยมในการใช้  Facebook  แพร่หลายมากขึ้น   หลาย ๆ คนเริ่มจะเอารูปลูก ๆ ที่น่ารักของแต่ละคนออกมาอวดกันผ่านหน้า  Wall  ส่วนผมคิดว่าคงไม่มีโอกาสมีลูกเนื่องจากภรรยาไม่ค่อยจะแข็งแรงนัก  
                     หากพูดถึงการแต่งงานของเพื่อน ๆ คู่ของสุกิจกับสาวนุ้ย นิสิตร่วมรุ่นรหัส 33 จากคณะมนุษยศาสตร์ เป็นคู่ที่ผมยังประทับใจไม่ลืม ในวันคริสมาสอีฟ ปี  2535  ช่วงเย็นวันหนึ่ง สุชาติ อู่ตะเภาหรือกวัก หนุ่มหล่อเข้มจากคณะศึกษาศาสตร์ เดินเข้ามาหาผม สุกิจ พลางพูดด้วยเสียงร่าเริงว่า เทียน วันนี้เราไปกินขนมฟรีกันหรือเปล่า ที่โบสถ์คริสข้าง ๆ หอเราเนี่ย เค้ามีงานวันคริสมาสต์กัน ผมพยักหน้ารับพร้อมบถามออกไปว่า เฮ้ย กวัก เราไม่ได้นับถือคริสต์ แล้วเราจะไปร่วมงานเค้าได้หรือ ไม่หรอก มณเฑียร เค้าเชิญผมมาและก็ให้พาเพื่อน ๆ ไปร่วมงานได้ ปเหอะ ดีกว่าอยู่เปล่า ๆ อย่าคิดมากสิ กวักตอบมาพลาง บอกรายละเอียดอื่น          ๆ จนผมแน่ใจว่าไม่ถูกหลอกไปกินฟรี ช่วงใกล้สิ้นเดือนของเด็กชาวหอทุกคนมันยาวนานอยู่เหมือนกัน ถ้ามีงานแบบนี้ก็ไม่น่าที่จะปฏิเสธหรอก หลังจากนั้นผมก็นัดหมายเพื่อน ๆ ที่สนใจจะไปร่วมงาน พวกเราเท่าที่จำได้มีผม สุกิจ เปี๊ยก และตัวต้นเรื่อง กวัก
                    ถึงเวลาจะผ่านมา  20  ปีแล้วก็ตาม แต่ผมยังจำสภาพอากาศคืนนั้นได้เป็นอย่างดี อากาศช่วงหัวค่ำวันนั้นเย็นจนถึงขั้นหนาว ผมต้องหาเสื้อหนา ๆ มาใส่ทับอีกชั้น  พวกเราเดินออกไปทางหน้า มหาวิทยาลัยบูรพา ไปทางขวามือเลียบไปตามรั้วมหาวิทยาลัย  เมื่อถึงที่หมายก็เดินเข้าไปในบริเวณโบสถ์ ตัวโบสถ์จะอยู่ห่างจากประตูหน้าพอสมควร เมื่อเข้าไปถึง มันเหมือนพวกเราหลุดไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง บรรยากาศด้านในจะมีการร้องเพลงเกี่ยวกับวันคริสมาส การเสียสละของพระเยซู ซึ่งไถ่บาปแทนมนุษย์  แสงสีต่าง ๆ ประดับประดาบนต้นคริสมาสแลดูสวยงามเย็นตาและแฝงไปด้วยพลังแห่งความศรัทธา  คริสตศาสนาเป็นศาสนาหนึ่งที่ผมคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก ผมเลยไม่แปลกใจนักที่คืนนี้จะมีคนเข้ามาร่วมงานมากพอสมควร
                    หลังจากเสร็จพิธีต่าง ๆ แล้ว กวักตักไอศครีมมาให้ผม ผมเหลียวมองหาสุกิจเพื่อจะชวนมาทานไอศครีมด้วยกัน โดยปกติ สุกิจจะอยู่ข้าง ๆ ผมเสมอ ๆ ไม่ว่าจะไปทำธุระกันที่ไหน แต่ในคืนนั้น สุกิจเหมือนคนต้องมนต์สะกด เพราะไกลออกไปจากจุดที่ผมนั่ง สาวน้อยนางหนึ่งที่ที่ผิวขาว ดูโดดเด่น ยืนคอยให้ความช่วยเหลือแขกที่มาร่วมงาน คอยตักไอศครีมให้กับคนที่เวียนกันเข้ามาขอ ใกล้ ๆ กันนั้นผมเห็นสุกิจร่างสูงใหญ่ก็ยืนคอยช่วยเหลือสาวคนนั้นอยู่อย่างขมักเขม้น โดยสุกิจแทบจะทำแทนไปเสียทุกอย่าง  จนเมื่อคนเริ่มบางตาลง สุกิจก็เดินเข้ามาบอกผมว่า เฮ้ย เทียน คืนนี้อย่าพึ่งกลับนะ เดี๋ยวอยู่กินไอศครีมกันก่อน ผมตาค้างมองสุกิจอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ถ้าให้เดาก็คงเดาไม่ยากว่าอะไรจึงทำให้สุกิจรีรอ ไม่ยอมกลับหอกันเสียที  คืนนั้นอากาศหนาวมาก ไอศครีมก็แข็งจนแทบจะกัดไม่เข้า แต่สุกิจก็ยังตักไอศครีมมาเติมให้ผมกับกวักอยู่เสมอ เพราะต้องการให้ผมรออยู่เป็นเพื่อน ผมกับกวักนั่งกินไอศครีมกันจนร่างกายเย็นไปหมด  แต่สุกิจก็คงไม่รับรู้อะไร เพราะคืนนั้นในหัวใจคงอบอุ่นอยู่พิกล  ตอนที่มาโบสต์กันเมื่อหัวค่ำผมคิดว่าวันคริสมาสต์ คงจะมีแต่เรื่องของพระเยซู ซะอีก ก็เพิ่งจะคืนนั้นนั่นแหละที่คิวปิดตัวน้อย มาร่วมงานและแผลงศรรักเข้าปักหัวใจสุกิจอย่างจัง  คืนนั้นกว่าจะกลับหอพักก็ดึกมากแล้ว พวกเราทุกคนง่วงนอนกันมาก จะมีก็แต่สุกิจคนเดียวล่ะมั้งที่ดูเหมือนว่าจะตื่นอยู่ด้วยใจเป็นสุข  และก็คงภาวนาให้ถึงวันรุ่งขึ้นเร็ว ๆ เพื่อจะได้สานต่อความรู้สึกวันคริสมาต์อีฟกับสาวสวยคนนั้นไปจนชั่วชีวิต

19 พฤศจิกายน 2555
ต้นจำปูนหลังบ้าน
                     





  


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น