เสียงเพลงดังขึ้นรอบ
ๆ ตัวพร้อมกับแสงจากเปลวเทียนที่ถูกจุดโดยพี่ๆ
VSBUU(Valentine
Science of Burapha University) ในห้อง B-100 หลังจากที่พวกเรา QSBBU ทั้งมุดทั้งคลานด่านต่าง ๆ จนหลุดเข้ามาในห้อง B-100 กันครบ ผมเข้ามาเกือบจะกลุ่มท้าย
ๆ แล้ว เลยได้ที่นั่งบริเวณหน้าห้องใกล้ประตู ส่วนเพื่อน คนอื่นๆ ก็นั่งติดกันไปตามลำดับ
ไฟในห้องถูกปิดทุกดวง ยิ่งขับให้แสงเทียนส่องประกายสวยงามมากยิ่งขึ้นไปอีก
คืนนั้นอะไร ๆ มันดูเหมือนกึ่งจริงกึ่งฝัน สิ่งที่รับรู้คือบรรยากาศการงานจับพี่เทค
ที่พี่ๆ VSBUU จัดให้น้อง QSBUU ประทับใจมาก เทียนแสงแรกถูกจุดจากพี่ที่ยืนล้อมพวกเราเป็นวงกลมในห้องด้านซ้าย
จากนั้นแสงเทียนต่อแสงเทียนก็ต่อเติมไฟไปในแถวด้านซ้าย
ด้านขวา งานจับพี่เทคเป็นงานประเพณีของคณะวิทยาศาสตร์ ที่พี่
VSBUU จะเปิดโอกาสให้น้อง
ๆ QSBUU จับฉลากชื่อพี่ ๆ เข้ามาเป็นคนคอยดูแลพวกเราในระยะเวลา 3
ปีที่ร่วมเรียนใน มศว.
โดยเฉพาะปีแรกที่จะดูแลมากเป็นพิเศษ
การจับพี่เทคเริ่มจากพิธีกรยืนอยู่กลางห้อง
และค่อยๆ เรียกน้อง QSBUU
ออกไปหน้าห้องทีละคนแล้วให้น้องจับฉลากออกมาจากโถ
จากนั้นน้องคนที่จับฉลากก็อ่านรหัสที่พี่ ๆ เขียนไว้ให้คนในห้องฟัง เมื่ออ่านรหัสเสร็จแล้ว
พวกพี่ VSBUU ก็จะใบ้ให้น้อง
ๆ รู้ว่า พี่เทคของเรานั้นอยู่สาขาไหน โดยการตะโกนบอกชื่อเอก เช่นถ้าจับได้พี่เอกเคมี
พี่ ๆ ก็ตีกลองร้องตะโกนว่า “เคมี เคมี เคมี เคมี” พร้อมทั้งดิ้นตามจังหวะไปด้วย คืนนั้นพี่อ๋องเอกเคมี เพื่อนต้องเคมี จะใส่อารมณ์เป็นพิเศษ ดิ้นจนพุงกระเพื่อม งานเป็นไปอย่างสนุกสนาน
รหัสของพี่เทคบางคนก็หวาดเสียวโดยเฉพาะพี่ผู้ชาย ที่พอน้องๆ สาว ๆ บางคนจับได้แล้ว จะอ่านรหัสไป หน้าแดงไป กลุ่มน้อง QSBUU ที่เสียงดังที่สุดจะเป็นเพื่อน
ๆ จากเบญจมราชรังสฤษฎิ์ โดยเฉพาะไอ้เอ ไอ้นี่ซ่าจนหยดสุดท้ายจริง ๆ แรก ๆ ก็เงียบกันอยู่
แต่พอรู้จังหวะแล้วก็ร้องตะโกนแซวไปกับพวกพี่ ๆ ด้วย แล้วก็ธรรมดาของการจับพี่เทค
พวกเราหนุ่ม ๆ ก็อยากได้พี่เทคที่ฐานะดี
หน้าตาดีมาเป็นคนดูแล ผมนั้นก็เล็ง ๆ
พี่เอกเคมีไว้เหมือนกัน ไม่บอกหรอกว่าชื่อพี่อะไร แต่พี่คนนั้นไอ้แอ๊บดันจับได้ไป
เฮ้อ เซ็งชะมัดยาดเลย ผมจับได้พี่กุ้ง
เอกชีวะวิทยา ตอนออกไปจับยัง งง งง เลยว่าออกไปทำอะไร แต่สิ่งหนึ่งที่จำได้จากวันนั้นจนถึงวันนี้คือ
ช่วงแรกที่เราเข้าไปในห้อง B-100 กันหมดแล้ว
พี่ ๆ ร้องเพลง “เทียนหนึ่ง” พร้อมกับจุดเทียนต่อไปเรื่อย
ๆ จนครบทุกคน วันนี้เรามาหวนนึกถึงบรรยากาศคืนนั้นและเพลงนั้นกันอีกครั้งนะ
"เทียนหนึ่ง"
เทียนหนึ่ง
ถุกจุดที่นี่ เทียนนี้ ถูกจุดลุกไสว
เทียนนี้
ถูกจุดที่ใจ เปลวไฟ ถูกจุดขึ้นมา
เปลวไฟ
แห่งการลุกไหม้ เปลวไฟ แห่งการศึกษา
เปลวไฟ
ต่อสู่มายา เปลวไฟ ที่ท้าผองภัย
บ่อยครั้งเทียนกระพริบริบหรี่
เมื่อมีลมกันโชกโบกใกล้
บ่อยครั้งเทียนแทบดับไป
แทบไม่อาจต้านแรงลม
ศักดิ์ศรีที่เทียนส่องอยู่
เชิดชูศรัทธากล้าแกร่ง
แม้เป็นเทียนน้อยด้อยแสง
อาจแฝงศรัทธาเรื่องรอง
บัดนี้เทียนถึงการมอดดับ
ลาลับไปจากเพื่อนผอง
แต่
ณ ที่นี้เรืองรอง ขอเทียนน้องส่องทดแทน
28 กรกฎาคม 2554
ต้นจำปูนหลังบ้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น