วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2564

แด่คุณพ่อในหัวใจด้วยความทรงจำ

เสียงคล้ายๆ ปี่แตรดังระงมมาตั้งแต่ตอนตี 4 จนปลุกให้ผมตื่นขึ้นมาบนที่นอนในที่พักใกล้ ๆ กับพระธาตุอินทร์แขวน เสียงที่ได้ยินนั้นดังล่องลอยประสานเสียงใกล้เข้ามาและเลยผ่านไป แต่เสียงก็ยังดังมาไม่ขาดสายเหมือนมีคนเป่าแตรจำนวนมากกำลังเดินไปด้วยเป่าไปด้วย ผมขยับตัวและหันไปมองทางเตียงที่คุณพ่อกับคุณแม่นอนหลับอยู่ใกล้ ๆ กัน คุณพ่อขยับตัวเล็กน้อยอยู่ใต้ผ้าห่ม ส่วนคุณแม่ยังหลับสนิทอยู่ข้างๆ กัน นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่เคยนอนในห้องเดียวกันกับคุณพ่อและคุณแม่จนกระทั่งมาเที่ยวที่เมียนมาในครั้งนี้

ราว ๆ ตี 5 ท่านทั้งสองก็ตื่นและถามผมถึงเสียงดังกล่าว ผมไม่ทราบว่าเสียงอะไรแต่ชวนคุณพ่อคุณแม่อาบน้ำแต่งตัวและเดินไปไหว้พระธาตุอินทร์แขวนยามรุ่งสางเผื่อจะได้รู้ที่มาของเสียง อากาศบริเวณที่พักยามเช้าค่อนข้างเย็นเพราะตั้งอยู่บนเขาทำให้ผมต้องเตรียมเสื้อกันหนาวไปใส่ ซึ่งเมื่อทุกคนพร้อมแล้วเราทั้งสามคนก็ออกเดินไปยังองค์พระธาตุด้วยกัน
ระหว่างทางที่เดินขึ้นบันไดเราเดินสวนทางกับเด็กเมียนมาหลายสิบคนที่ต่างทยอยเดินลงมาจากบริเวณองค์พระธาตุ ในมือเด็กเหล่านั้นถือแตรอันเล็ก ๆ ที่ทำจากปล้องไม้ไผ่และมีลูกโป่งติดอยู่ตรงปลาย เด็กที่เดินผ่านไปต่างก็เป่าแตรที่ถือกันมาทุกคน คุณพ่อผมหยุดมองแล้วก็ทำท่าหัวเราะชอบใจส่วนคุณแม่ไม่ว่าอะไรเพราะกำลังตั้งใจเดินไปที่องค์พระธาตุ เมื่อเข้าไปใกล้องค์พระธาตุอินทร์แขวน ผมเห็นคนเมียนมาหลายคนกำลังเก็บเครื่องนอน คืนที่ผ่านมาคนเหล่านี้คงจะมาสักการะพระธาตุและจัดเตรียมที่นอนใกล้ ๆ ซึ่งพื้นที่เป็นหินอ่อนขนาดใหญ่สะสมความเย็นมาทั้งคืนทำให้คนที่นอนสัมผัสความเย็นกันพอสมควร หลาย ๆ คนถึงมีผ้าผ่มหนา ๆ เตรียมมาด้วย ยิ่งผมเดินไปบนพื้นหินอ่อนทำให้รู้สึกว่าอากาศเย็นมากยิ่งขึ้น เมื่อเราทั้งสามคนไหว้องค์พระธาตุเสร็จแล้วผมชวนคุณพ่อคุณแม่เดินสำรวจบริเวณใกล้ ๆ องค์พระธาตุ แสงแดดยามเช้าเริ่มทอแสงมาทางทิศตะวันออก แต่หมอกจาง ๆ ก็ยังลอยปกคลุมอยู่พอให้นึกถึงบรรยากาศชวนฝันเหมือนในภาพถ่ายทางภาคเหนือของไทยที่เคยพบเห็นมา
เมื่อเดินลงไปจากบริเวณองค์พระธาตุเล็กน้อยมันเป็นเมือนหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเขา คุณพ่อเลยชวนผมกับคุณแม่เดินลงไปสำรวจหมู่บ้าน ระหว่างทางที่เดินผ่านไปหลาย ๆ บ้านที่ตื่นกันแล้วจะมีผู้ชายนุ่งสโร่งนั่งล้อมวงดื่มน้ำชา ส่วนผู้หญิงจะเตรียมสินค้าไว้ขายให้นักท่องเที่ยว อากาศยามเช้าสดชื่นแต่ที่สดชื่นยิ่งกว่าคือใบหน้าของคุณพ่อที่ยิ้มไม่หุบและชอบใจในหมู่บ้านเหล่านี้พลางบอกผมไม่ขาดปากว่าไม่คิดว่าจะมีหมู่บ้านอยู่บนเขาและเจริญขนาดนี้ ระหว่างเดินผ่านร้านค้าบางครั้งคุณพ่อก็เข้าไปเดินดูสินค้าที่แม่ค้าหน้าขาวปะแป้งทนาคาร้องเรียกเชิญชวนให้เข้าไปดู ผมยิ้มในหัวใจและรับรู้ถึงความสุขที่คุณพ่อคุณแม่ได้รับในการมาเที่ยวในที่ที่ห่างไกลจากประเทศบ้านเกิดเป็นครั้งแรก หากคุณพ่อคุณแม่พอใจในสินค้าผมก็ชำระค่าเงินค่าสินค้าที่คุณพ่อคุณแม่เลือกและเก็บรวบรวมลงกระเป๋าสะพาย เมื่อผมพาคุณพ่อคุณแม่เดินเที่ยวรวมทั้งซื้อสินค้าจนท่านทั้งสองพอใจแล้วก็พาท่านเดินกลับไปยังที่พักเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับเมืองย่างกุ้งกับคณะทัวร์ต่อไปในตอนสายวันนั้น
คุณพ่อจะรู้หรือเปล่านะว่าลูกชายคนนี้คิดถึงรอยยิ้มของคุณพ่อในเช้าวันนั้นที่หมู่บ้านบริเวณพระธาตุอินทร์แขวนอยู่เสมอ มันยังเป็นสิ่งที่ยังหล่อเลี้ยงหัวใจผมให้มีกำลังใจที่จะต่อสู้ชีวิตแม้ในวันที่ยากลำบากและเสียใจอย่างที่สุดก็ตามที




21 สิงหาคม 2564
ต้นจำปูนหลังบ้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น