ภาพคุณครูศุลีพร
คุณครูที่ดีที่สุดคนหนึ่งในชีวิตผมย้อนกลับมาวนอยู่ในหัวหลังจากพบคุณครูครั้งหลังสุดในงานบวชน้องชายลูกอาเมื่อต้นเดือนธันวาคม
2557
ผมนึกไปถึงเช้าวันหนึ่งในปี
2525 วันที่ผมมาโรงเรียนเช้ากว่าปกติและก็เหมือนเคย
มีเพื่อน ๆ ผมหลายคนรอผมอยู่ด้วยใจกระวนกระวาย
ตามประสาเด็ก ๆ สมัยนั้น การบ้านที่ครูให้กลับไปทำที่บ้าน มันแทบจะเป็นยาพิษสำหรับเด็กบ้านนอกที่กิจกรรมโดยส่วนใหญ่จะหมดไปกับการเล่นประจำวัน
การออกไปท้องไร่ท้องนา งานบ้านที่ได้รับมอบหมาย
และพ่อกับแม่ก็ไม่ได้มีเวลามาดูแลเอาใจใส่พวกเราเหมือนกับเด็กสมัยปัจจุบัน ใช่แล้วครับเพื่อนผมรอลอกการบ้านผมนั่นเอง
วันนั้นด้วยความรีบร้อน พอผมทำการบ้านเลขเสร็จ ก็ไม่ได้ตรวจทานให้ดี มาถึงโรงเรียนก็ให้เพื่อนลอกและรีบออกไปเล่นเตย
เหมือนปกติทุกวัน สมเกียรติ สมาน ประสงค์ บรรจง คือเพื่อนในกลุ่มเท่าที่จำได้ ส่วนกลุ่มเพื่อนเด็กผู้หญิงอย่างเรวดี วรรณา
เค้าไม่ได้สนใจในกิจกรรมพวกผู้ชายกันหรอก คงเอาแต่เล่นหมากเก็บหรือเอาดอกจำปี
ลูกจันทร์มาอวดกันเหมือนปกติ
ตอนสายวันนั้นก็เกิดเรื่อง
เรื่องที่ผมจำมาตลอดชีวิต เช้านั้นเมื่อเข้าห้องเรียนแล้วเราก็เรียนหนังสือกันไปตามปกติ
จนกระทั่งเวลาประมาณ 10:00 น. คุณครูศุลีพร ก็เรียกเพื่อน
ๆ กลุ่มผมออกไปถามทีละคนถึงการทำการบ้าน ซึ่งวันนั้นเป็นการบ้านเลข แต่ละคนจะถูกถามด้วยคำถามเดียวกันว่า เธอทำการบ้านนี้เองหรือเปล่า
ซึ่งแน่นอนไม่มีเด็กคนไหนยอมรับหรอกว่าตัวเองนั้นลอกคนอื่นมา ผมในฐานะหัวหน้าห้องยังนั่งนิ่งยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น
แต่ก็มีเพื่อน ๆ มากระซิบให้ทราบแล้วจนกระทั่งถึงคิวผมถูกคุณเรียกออกไปที่โต๊ะหน้าชั้นเรียน
และก็ถูกถามอย่างตรงไปตรงมาว่า มณเฑียร เธอให้เพื่อนลอกการบ้านหรือเปล่า
ผมตอบปฏิเสธไปในแทบจะทันที คุณครูจึงเอาสมุดของเพื่อน
ๆ มาให้ดู คำตอบในโจทย์การบ้านเป็นการบวกเลขและมันผิด สาเหตุที่ผิดก็มาจากการบวกกันในหลักสิบแล้วไม่ได้เอาเลขที่ทดไว้
ไปบวกเข้ากับหลักร้อย และที่สำคัญเด็กผู้ชายอย่างประสงค์ สมเกียรติ สมาน ที่ทำโจทย์นั้นดันทำมันผิดเหมือนกันเกือบทุกคนรวมทั้งผมด้วย
ผมจนด้วยหลักฐานที่ปรากฏ จึงตอบรับไปว่าครับ ผมให้เพื่อน ๆ ลอกการบ้านเอง
ในวันนั้นคุณครูศุลีพรไม่ได้ลงโทษผมและเพื่อนๆ
โดยการตี หรือทำโทษอะไรเลย คุณครูอนุญาตให้ผมเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ ผมได้แต่และนั่งนิ่ง
ๆ จากนั้นเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นก็เริ่มออกมาจากลำคอของคุณครู “ครูไม่คิดเลยว่าพวกเธอจะทำกันอย่างนี้
เด็กที่ครูหวังวาจะเป็นเด็กดี ขยัน ตั้งใจเรียนจะทุจริตด้วยการลอกการบ้าน” ผมเห็นคุณครูร้องไห้ไปเช็ดน้ำตาไป และสะอึกสะอื้น
นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นผู้ใหญ่ร้องไห้ และที่สำคัญสาเหตุมาจากพวกผมเอง
วันนั้นตาผมลาย หูอื้อไปหมด ความรู้สึกผมยิ่งกว่าถูกหวดด้วยไม้เรียวซะอีก
ผมนิ่งเงียบและก้มหน้านิ่ง กว่าเช้าวันนั้นจะผ่านไปได้
ความรู้สึกผมมันช่างเชื่องช้าเสียเหลือเกิน
จากวันเป็นคืน จากคืนเป็นเดือน และจากเดือนเป็นปี
เรื่องนี้ก็ยังอยู่ในความทรงจำของผมไม่เคยลบเลือนหายไป ทุกครั้งที่เห็นผู้หญิงร้องไห้
ผมจะคิดถึงน้ำตาของคุณครูอยู่เสมอ ๆ
ถึงวันนี้สิ่งที่คุณครูหวังที่จะให้ผมเป็นคนดี
ผมได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เป็นเด็กดีของคุณพ่อคุณคุณแม่ เป็นคนดีของบริษัทที่ตนเองทำงาน
เป็นคนดีของประเทศชาติและเป็นข้าราชบริพารที่ดีขององค์พ่อหลวงของเรา
ความดีที่ผมได้ยึดถือและปฏิบัติมาตลอดชีวิต
ผมหวังว่าจะช่วยลบล้างคราบน้ำตาของคุณครูศุลีพรในวันนั้นให้จางหายไป
และมีรอยยิ้มมาให้ลูกศิษย์ที่ทำผิดไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์คนนี้ด้วยนะครับ
25 พฤษภาคม
2557
ต้นจำปูนหลังบ้าน