วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2551

สี่แยก


ทุก ๆ วันที่ผมขับรถ สิ่งที่ผมเห็นอยู่ตลอดเวลาตาม 4 แยกก็คือ คนนำของมาขายกันมากขึ้น บางวันก็เจอแม่ค้าแซนวิช บางวันก็เจอคนขายหนังสือพิมพ์ บางวันก็เจอคนพิการนำผ้ามาถูกระจก เพื่อให้ผมได้มีโอกาสทำทาน คุณว่าผมคิดยังไงกับคนเหล่านั้น  คุณคงทายไม่ถูกหรอก ผมจะเฉลยให้ฟังดีกว่า ผมนึกถึงและขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ของผมที่ให้ชีวิตที่ดี ๆ กับผม ให้อะไร ๆ ทุก ๆอย่างกับผม ผมขอบคุณโชคชะตาชีวิตที่ผ่านมาที่นำผมให้อยู่แต่ในสถานที่ดี ๆ งานดี ๆ แล้วก็เพื่อนดี ๆ แม้มันจะไม่ยั่งยืนแต่ผมจะพยายามรักษามันไว้ให้นานที่สุด คุณอาจจะคิดเหมือนผมหรือคิดต่างจากผมก็ได้ แต่สุดท้ายคุณคงไม่ปฎิเสธในความรักและหวังดีที่คุณพ่อคุณแม่มีให้คุณตั้งแต่เด็กหรอกนะ และก็คงนึกรักท่านทั้งสอง และขอบคุณท่านทั้งสองที่ให้โอกาสและสิ่งดี ๆ ตลอดมาเหมือนผม  




22 สิงหาคม 2551
ต้นจำปูนหลังบ้าน






วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ไหว้ครู


              เมื่อครั้งที่ปู่ผมยังเป็นหมอทำน้ำมันรักษาคนที่มีปัญหาเรื่องกระดูก ในทุกๆปีจะมีงานไหว้ครูที่บ้านปู่ ในความคิดผมตอนที่เป็นเด็กนั้น มันเป็นงานที่ใหญ่มาก ๆ ในงานจะมีคนมาร่วมทำบุญแล้วก็ไหว้ครูเป็นจำนวนมาก พิธีจะถูกจัดขึ้นในวันพฤหัส เดือน 6 สิ่งที่ประทับใจผมในตอนนั้นจนถึงปัจจุบัน ก็คือกับข้าวในงานไหว้ครูในปีหนึ่ง  กะเพราหมูสับคืออาหารที่ทำให้เด็กอย่างผมประทับใจ รสชาติอร่อยมาก จำได้ว่าแม่บอกให้น้าคนนึงจัดให้กิน ขนาดผมไม่ค่อยชอบกินข้าวนะ ยังกินซะพุงกางเลย  นอกนั้นยังมีหัวหมู ซึ่งคนที่มาร่วมงานจะนำมาสำหรับไหว้ครู อันนี้ผมไม่กินเลย เพราะแม่บอกว่ากินแล้วจะโง่ อีกอย่างก็คือตีนไก่ อันนี้ก็ไม่กินเพราะกินแล้วแม่บอกว่าจะเขียนหนังสือไม่สวย นึกถึงตีนไก่แล้วผมก็อดขำไม่ได้ ปัจจุบันลายมือผมแย่ซะยิ่งกว่าแย่อีก ในงานไหว้ครูทุก ๆ อย่างที่ผ่านไป มันมีแต่ความสนุกสนาน ผมวิ่งไปมาไม่รู้จักเหนื่อย หิวก็มาขอข้าวแม่กิน แล้วก็ไปเล่นต่อ ในช่วงหัวค่ำก็มีหนังตะลุงมาเล่นให้ดู ถึงตอนนั้นผมก็ไม่ได้ดูแล้วเพราะหลับไปซะก่อน ผมนอนง่ายน่ะ อะไร ๆ ที่เค้าเล่นกันกลางคืนเลยไม่ค่อยรู้ รู้แต่ว่าตื่นขึ้นมาอีกวัน ผมก็นอนอยู่บนที่นอนผมซะแล้ว 



17 สิงหาคม  2551
ต้นจำปูนหลังบ้าน