วันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549

ต้นมะพร้าวของพี่ชาย

              ตอนพี่ชายผมไปเรียนโรงเรียนมัธยมที่บ้านฉางนั้น เค้าเอาอะไร ๆ แปลก ๆ มาบอกผมอยู่เสมอ มีอยู่วันหนึ่งพี่เค้าเอามีดไปเจาะต้นมะพร้าวให้เป็นช่อง สี่เหลี่ยมเล็ก ๆ แล้วก็ตัดฝักต้นหางนกยูงเป็นรูปสี่เหลี่ยมให้  เป็นฝาพอดี มาปิดช่องนั้นทำเป็นที่ใส่ของ แล้วเค้าก็เอาเงินเหรียญบาทมาใส่เป็นที่เก็บเงิน แล้วก็มาบอกผม ผมก็มักจะไปเปิดดูสตางค์  แต่ก็ไม่เคยเจอเลย แต่เวลาพี่ผมเปิดให้ดูก็มักจะมีสตางค์เหรียญบาทอยู่เสมอ ๆ  แต่เค้าก็ไม่ได้ให้ผมหรอกนะ จนผ่านไปหลายๆ ปี พ่อผมสร้างบ้านใหม่ ผมเลยไม่ได้ไปที่ต้นมะพร้าวอีก แต่เมื่อไรที่ผ่านไปทางต้นมะพร้าวนั้นผม มักจะอมยิ้มไปกับความไร้เดียงสาของ พี่ชายผมกับของผมทุกทีไป  วันนี้รอยตัดที่ต้นมะพร้าวก็ยังอยู่ แต่ต่ำมากแต่อย่างน้อยวันนี้ที่พี่ชายผมไม่ได้  อยู่กับผมอีกต่อไปผมก็ยังระลึกถึงในสิ่งดี ๆ  ที่ผมต่างก็เคยทำด้วยกันมาอยู่เสมอ ๆ 

       14 พฤศจิกายน  2549
ต้นจำปูนหลังบ้าน

วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549

จักรยานสีแดง

คุณขี่จักรยานเป็นครั้งแรกเมื่ออายุเท่าไร สำหรับผมนั้น ผมจำได้ว่าตอนอายุ 10 ขวบ ผมเป็นโรคตาแดง จึงต้องหยุดเรียนไม่ได้ไป โรงเรียน ก็เลยลองพยายามขี่จักรยานดู จักรยานที่ผมขี่นั้นเป็นสีแดงเป็นแบบผู้หญิงขี่ ผมเคยลองขี่หลายทีแล้ว แต่ก็ยังไม่สำเร็จซะที แต่วันนั้นไม่รู้นึกยังไงผมขี่แล้วก็ได้เลย ความรู้สึกตอนนั้นก็คือผมดีใจมาก มันเหมือนผมก้าวหน้าไปอีกขั้น  

จักรยานสีแดงคันนี้ตอนผมอายุ 9 ขวบพี่ชายของผมพาผมซ้อนท้าย แล้วก็ขี่พาไปเที่ยวที่ทะเล คุณยังจำทะเลที่ผมพาคุณไปได้หรือเปล่า  หาดทรายที่ไม่มีคนอยู่เลยนั่นแหละ เราตั้งชื่อเรียกกันว่า หาดหินโค้ง  นั่นเป็นที่แรกที่พี่ชายผมปั่นจักรยานพาผมไปถึง มันทำให้ความรู้สึกของเด็กอย่างผมล่องลอยไปแสนไกล  

ตอนผมเรียนมหาวิทยาลัยบูรพา ผมก็เอาจักรยานคันนี้ไปขี่ด้วยนะ ผมยังเคยปั่นไปถึงตัวเมืองชลบุรีเลยด้วย จนครั้งสุดท้ายผมเอาจักรยานกลับมาที่บ้าน แล้วก็ไม่ได้ใช้งานอีกเลย  คิดถึงจักรยานสีแดงคันนั้นเหมือนกัน

พี่ชายผมเคยทำให้ผมทึ่งตอนเด็ก ๆ เกี่ยวกับจักรยานอีกเหมือนกัน คือพี่ผมเอาตะปูมาตีให้แบน ๆ แล้วก็มาบอกผมว่า เนี่ยเป็นกุญแจผี สำหรับนำไปไขคอจักรยานสีแดงได้”   ผมก็ลองดู เออ มันทำงานได้จริง ๆ แฮะ กุญแจสามารถไขเข้า ไขออกได้เหมือนเป็นกุญแจจริง ๆ เลย ผมเก็บกุญแจดอกนั้นของพี่ชายผมที่ทำไวตั้งหลายปีแน่ะ

ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า ความสุขที่ผมถวิลหามาตลอดก็คือความสุข ที่ผมได้อยู่กันพร้อมหน้าทั้งครอบครัวเหมือน กับที่ผมได้รับเมื่อตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ๆ นั่นเอง บางทีอะไร ๆ มันผ่านไปเร็วจนผมแทบไม่ได้ตั้งตัวเลย ผมอยากหยุดนึกถึงความหลังที่ผมมีความสุขสักนิดหนึ่ง  นึกถึงวันที่ผมมีความสุข ในวันที่ผมมีความทุกข์ใจอย่างวันนี้ วันที่พี่ชายจากผมไป ผมเสียดายที่ไม่ได้ทำอะไร ๆ ที่ดี ๆ ให้พี่ชายผมนัก บางทีความทรงจำดี ๆ มันมาพร้อมกับความเศร้า  ความเศร้าที่กระตุ้นให้ผมนึกถึง ช่วงเวลาที่ดี ๆ ที่มีให้กับคนที่ผมรักและเคารพคนหนึ่ง ผมอยากจะบอกกับทุก ๆ คนที่ผมรักว่าผมรักและห่วงเค้าแค่ไหน ...

13 พฤศจิกายน 2549 
ต้นจำปูนหลังบ้าน