วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เงินของแม่


                       วันหนึ่งในปลายปี  2527 ขณะที่กำลังเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ที่โรงเรียนมัธยมต่างอำเภอ  แม่เดินเข้ามาหาผมและก็ยื่นเงินให้  500  บาทพลางบอกว่า หน่องเอาเงิน  500  บาทนี่ไปฝากธนาคารออมสินนะ เก็บเอาไว้สำหรับเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นผมได้แต่สงสัยว่าแม่คิดอะไรเพราะด้วยวัยเด็กผมไม่เคยคิดถึงอนาคตในวันข้างหน้า รู้จักแต่การเล่นสนุกและเรียนหนังสือให้ผ่านไปวันหนึ่ง ๆ เท่านั้นเอง  แต่ผมก็รับเงินมาและก็นำเงินไปเปิดบัญชีฝากไว้กับธนาคารออมสินในวันเสาร์ถัดมา 

              หลังจากนั้นในแต่ละเดือนแม่ก็เก็บเงิน  500 บาทไว้ให้แล้วก็บอกให้ผมนำไปฝากไว้ที่ธนาคารออมสิน ในช่วงแรก ๆ ผมไม่รู้ว่าแม่เอาเงิน 500 บาทมาจากไหนจนเริ่มสังเกตได้ว่าหลังจากที่พ่อสอยมาพร้าวที่สวนและนำไปขายได้ แม่ก็จะนำเงินจากการขายมะพร้าวมาให้ผมนำไปฝากที่ธนาคารในทุกวันเสาร์หลังจากได้รับเงินจากแม่  ในเวลานั้นทุกครั้งที่ผมฝากเงินทางธนาคารออมสินจะมีของที่ระลึกมาให้ตลอดเพื่อเป็นแรงจูงใจรวมทั้งปลูกฝังให้เด็กไทยรักการออมเงิน  แต่น่าเสียดายด้วยความเป็นเด็กผมไม่เคยคิดถึงความสำคัญของของที่ระลึกเหล่านั้น และเมื่อเวลาผ่านไปสิ่งเหล่านั้นได้สูญหายไปทั้งหมด ตลอดระยะเวลาที่แม่ให้เงินผมเพื่อนำไปฝากนั้น ผมเป็นคนถือสมุดบัญชีออมทรัพย์ไว้ตลอดโดยที่แม่ไม่เคยขอดูแต่ก็ไม่เคยคิดที่จะถอนเงินในบัญชีไปใช้ซื้ออะไรแม้แต่ครั้งเดียว เงินออมเพิ่มมากขึ้นจากเงินร้อยไปเป็นเงินพัน จากเงินพันไปเป็นเงินหมื่นและยอดเงินสุดท้ายที่สะสมได้จนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยคือสองหมื่นกว่าบาท

      ช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยผมพยายามใช้เงินอย่างประหยัดที่สุดเพราะรู้ดีว่า 4 ปีในมหาวิทยาลัยต้องใช้เงินค่อนข้างมากแต่ก็สามารถใช้เงินก้อนนั้นจนกระทั่งถึงปี 3 โดยเงินอีกส่วนหนึ่งจากการใช้เวลาไปรับจ้างทำงานเพื่อหาเงินในช่วงที่ปิดเทอมใหญ่หน้าร้อน แต่หากเป็นการปิดเทอมในช่วงเดือนตุลาคมผมจะใช้เวลาเหล่านั้นไปออกค่ายอาสาพัฒนาชนบทกับทางมหาวิทยาลัยแทน สำหรับค่าใช้จ่ายในชั้นปีที่ 4 ที่เหลือผมได้รบกวนคุณแม่ที่ตอนนั้นเป็นแม่ค้าขายส่งมะม่วงและพอจะมีเงินทองมาจุนเจือครอบครัวได้มากขึ้นแล้วและสามารถเรียนจบและเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรมาจนได้ 

                         ช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านไปตั้งแต่วันแรกที่ได้รับเงิน 500 บาทไปจนถึงวันจบปริญญาตรีในปี 2537  หากมองย้อนกลับไปมันเป็นช่วงชีวิตที่มีค่าและมีความสุขมาก ความกังวลในการเล่าเรียนไม่เคยเกิดขึ้นเพราะคุณแม่ตั้งใจทำงานสุจริตทุกอย่างเพื่อหาเงินมาให้จุนเจือครอบครัว สิ่งสำคัญคือความตั้งใจจริงในการทำงานหาเลี้ยงชีพโดยไม่เกี่ยงงานและหวังเพียงเงินที่นำมาใช้จ่ายในครอบครัวและเลี้ยงลูกทุกคนให้เป็นคนดีมีการศึกษาเท่านั้นเอง


6 พฤษภาคม 2563 
ต้นจำปูนหลังบ้าน