“พ่อมึงป่วย
แต่ก็ยังจะทำอะไรอยู่เรื่อยไม่ยอมพัก ตอนป่วยน่ะขยันจริง ๆ แต่พอไม่ป่วยล่ะไม่ค่อยทำอะไร ตาเป๋าเขาเป็นคนประเภทไหนกัน”
เสียงแม่ฟ้องเรื่องพ่อป่วยกับผมเมื่อผมเดินเข้าไปหาที่หลังบ้านขณะที่แม่กำลังจัดเตรียมของสำหรับขายในเช้าวันอาทิตย์
ผมเห็นพ่อเดินหลังไว ๆ อยู่ในสวนถัดจากแม่ไปไม่ไกลนัก ผมนั่งพักข้างๆ
แม่และมองตามพ่อไป
แม่บ่นเรื่องที่พ่อป่วยต่อไปอีกในขณะที่มือก็หยิบหน่อไม้ที่ต้มเสร็จแล้วเอามาปอกในกะละมังน้ำเย็นต่อเนื่องกันไป
ผมฟังแม่บ่นแต่ก็ไม่พูดอะไรเพราะพอแม่บ่นจนเหนื่อยก็คงจะหยุดไปเอง
แต่ก็ไม่ลืมตอบรับเป็นลูกคู่อยู่เป็นระยะพอไม่ให้แม่รู้สึกว่าพูดอยู่คนเดียว
“คุณเทียน
ขาเป็นอะไรทำไมเดินดูขัดๆ เจ็บจากการเล่นฟุตบอลหรือเปล่า” ภรรยาคนสวยของผมร้องทักด้วยความเป็นห่วง
เมื่อเห็นผมเดินเข้ามาในบ้านหลังจากขับรถกลับมาจากเล่นฟุตบอลกับน้อง ๆ ในบ่ายวันอาทิตย์ที่อ้อมน้อย
“ไม่เป็นอะไรซะหน่อย พอดีเดินสะดุดหญ้าที่หน้าบ้านขาเลยพลิกน่ะ”
ผมตอบกลับไปโดยอัตโนมัติเพราะรู้สึกเหมือนเด็กที่ทำผิดแล้วโดนผู้ใหญ่จับได้
และรีบเดินเข้าไปนั่งพักที่โซฟาสีแดงตัวโปรด เปิด
TV ดูรายการที่น่าสนใจต่างๆ
โดยไม่ได้พูดอะไร
ตอนเย็นผมเดินออกไปหยิบรองเท้าใส่วิ่งเพื่อออกกำลังกายโดยตั้งใจจะเพิ่มความฟิตให้ตัวเองจะได้มีแรงไปเตะบอลมากขึ้น แต่ก็เสียวแปล๊บ ๆ ตรงข้อเท้าขวา พอสังเกตดูชัดๆ
จึงเห็นว่าข้อเท้าบวมขึ้นมาก
“แล้วเราจะออกไปวิ่งไหวหรือ เจ็บข้อเท้าขนาดนี้” ผมถามตัวเองด้วยความรู้สึกกังวล ความรู้สึกอยากจะออกกำลังกายในวันนี้มีมากอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
อยากออกไปฟิตเนส
ทันใดนั้นผมก็เข้าใจเรื่องที่ผ่านเข้ามาของพ่อในทันที “พ่อมึงป่วย แต่ก็ยังจะทำอะไรอยู่เรื่อยไม่ยอมพัก ตอนป่วยน่ะขยันจริง ๆ
แต่พอไม่ป่วยล่ะ ไม่ค่อยทำอะไร…” เสียงของแม่แว่วเข้ามาในความคิดของผม เป็นเสียงที่ทำให้สมองของผมสว่างวาบขึ้นมาและเข้าใจพ่อเดี๋ยวนี้เอง
พ่อไม่ได้ขยันในเวลาป่วยอะไรเลย พ่อแค่อยากจะพิสูจน์ให้คนรอบข้างเห็นว่า
พ่อยังมีความสามารถที่จะทำอะไร ๆ ได้อีกมากโดยเฉพาะเวลาป่วยที่ยิ่งต้องพยายามมากขึ้น
เพราะสิ่งที่แย่ที่คนเราทนไม่ได้อย่างหนึ่งก็คือการไม่มีคุณค่าอะไรเลยในสายตาคนอื่นๆ
ผมนึกไปถึงการแข่งขันฟุตบอลทั้งๆ
ที่ร่างกายอ่อนล้าและช้าลงไปมากแต่ก็ไม่อยากให้ทุกคนในทีมรู้ว่าผมเป็นตัวถ่วงของทีม
อยากจะทำอะไรเพื่อทีม อยากจะพัฒนาตัวเองให้มากขึ้น
ยิ่งมาปวดข้อเท้าเพราะเล่นฟุตบอลเลยยิ่งจะพยายามจะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นเป็นสองเท่า
ทั้ง ๆ ที่สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมต้องทำก็คือการดูแลรักษาร่างกายให้พร้อมสมบูรณ์เสียก่อน
ก่อนที่จะคิดทำอะไร ๆ เกินกำลังตัวเองในขณะที่ปวดข้อเท้าอยู่อย่างนี้
หลังจากนำรองเท้าวิ่งไปเก็บความรู้สึกย่ำแย่ยังเกิดขึ้นอยู่ในความคิด
ผมรู้ว่ามันมีสาเหตุมาจากการแข่งขันฟุตบอลเมื่อตอนบ่าย ผลการแข่งขันที่พ่ายแพ้ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกย่ำแย่
สิ่งที่ทำให้รู้สึกย่ำแย่ก็คือการที่ผมอยู่ตรงนั้นแล้วทำอะไรไม่ได้เลยจนทีมพ่ายแพ้ต่างหาก คงอีกซักพักรอให้ผมหายดีก่อนแล้วจึงจะกลับมาฟิตร่างกายใหม่อีกครั้งโดยไม่ผัดวันประกันพรุ่งอีก
14 มีนาคม 2562
ต้นจำปูนหลังบ้าน
ต้นจำปูนหลังบ้าน