วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2561

คำสัญญา

             เย็นวันหนึ่งในเดือนธันวาคม 2551 ขณะยืนรอรถไฟไปเชียงใหม่เพื่อไปพบคนที่เฝ้ารอมานานแสนนาน เพราะสัญญากันไว้ว่าจะไปไหว้พระด้วยกัน  ตั๋วรถไฟ กระเป๋าเดินทาง ขบวนรถไฟเข้าเทียบชานชาลาสถานีดอนเมือง ทุกอย่างพร้อม ขอเพียงก้าวขึ้นรถไฟไปเท่านั้นเอง เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นจากผู้หญิงคนหนึ่งฉุดรั้งไว้ไม่ไห้ก้าวขาขึ้นรถไฟ ขบวนรถไฟเคลื่อนออกจากชานชาลาสถานีดอนเมือง ผมยืนนิ่งอยู่ที่สถานีรถไฟเหมือนเดิม น้ำตาไหลรินข้างในอกเพราะไม่ได้เดินทางไปตามคำสัญญา ความรู้สึกผิดยังคงเกาะอยู่ในใจจนถึงปัจจุบัน สิ่งเดียวที่ทำได้เพื่อไถ่ความรู้สึกผิดตลอดมาคือการยืนข้างๆ เขาคนนั้น และช่วยเป็นกำลังใจในทุก ๆ เรื่องขอเพียงเขาเอ่ยปาก  หากไม่โชคร้ายในชีวิตเหมือนที่เคยเป็นมา วันหนึ่งเราคงได้เจอกันโดยไม่มีสิ่งใดมาฉุดรั้งไว้เหมือนในอดีต การรักษาสัญญาและทำตามความรู้สึกของหัวใจเป็นสิ่งที่ยึดถือและปฏิบัตินับจากวันนั้น การรักใครซักคนด้วยหัวใจ มิได้มองไปถึงภูมิหลัง สถานะของเค้าและตัวเอง ถ้ามันยากจนเกินไป ก็ขอรักคนที่เค้ารักเราด้วยหัวใจเช่นเดียวกัน

6 กันยายน 2561
ต้นจำปูนหลังบ้าน