เย็นวันหนึ่งในเดือนธันวาคม
2551
ขณะยืนรอรถไฟไปเชียงใหม่เพื่อไปพบคนที่เฝ้ารอมานานแสนนาน
เพราะสัญญากันไว้ว่าจะไปไหว้พระด้วยกัน ตั๋วรถไฟ กระเป๋าเดินทาง ขบวนรถไฟเข้าเทียบชานชาลาสถานีดอนเมือง ทุกอย่างพร้อม
ขอเพียงก้าวขึ้นรถไฟไปเท่านั้นเอง เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นจากผู้หญิงคนหนึ่งฉุดรั้งไว้ไม่ไห้ก้าวขาขึ้นรถไฟ
ขบวนรถไฟเคลื่อนออกจากชานชาลาสถานีดอนเมือง ผมยืนนิ่งอยู่ที่สถานีรถไฟเหมือนเดิม
น้ำตาไหลรินข้างในอกเพราะไม่ได้เดินทางไปตามคำสัญญา ความรู้สึกผิดยังคงเกาะอยู่ในใจจนถึงปัจจุบัน
สิ่งเดียวที่ทำได้เพื่อไถ่ความรู้สึกผิดตลอดมาคือการยืนข้างๆ เขาคนนั้น และช่วยเป็นกำลังใจในทุก
ๆ เรื่องขอเพียงเขาเอ่ยปาก
หากไม่โชคร้ายในชีวิตเหมือนที่เคยเป็นมา
วันหนึ่งเราคงได้เจอกันโดยไม่มีสิ่งใดมาฉุดรั้งไว้เหมือนในอดีต การรักษาสัญญาและทำตามความรู้สึกของหัวใจเป็นสิ่งที่ยึดถือและปฏิบัตินับจากวันนั้น
การรักใครซักคนด้วยหัวใจ มิได้มองไปถึงภูมิหลัง สถานะของเค้าและตัวเอง
ถ้ามันยากจนเกินไป ก็ขอรักคนที่เค้ารักเราด้วยหัวใจเช่นเดียวกัน
6 กันยายน 2561
ต้นจำปูนหลังบ้าน