วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บุคลิกให้โทษ


วันที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบูรพาเมื่อปี  2537   ผมและเพื่อนๆ บุญน้อย ไม่ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว    แต่ก็เป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเมตตาพระราชทานปริญญาบัตรให้ในคราวที่เสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตรที่บางแสนในต้นปี  2538  ทุกวันนี้เวลากลับไปมองรูปตัวเองแล้วเหมือนกับเพิ่งผ่านมาไม่นาน  แต่ตัวเลข   21  ปีที่ผ่านไปมันก็บอกเราเสมอ ๆ ว่า วันเวลาของเด็กหนุ่ม เด็กสาวผ่านพ้นไปแล้ว   สมัยที่พวกเราเข้าเรียนจะอายุ  19 ปี (เกิด 2514) เป็นส่วนมาก  ดังนั้นจนถึงวันนี้จะอายุครบ 44  ปีกันทั้งหมดแล้ว  แต่เท่าที่จำได้ เพื่อน ๆ จาก กทม. จะอายุน้อยกว่าเกือบทุกคน (เกิด  2515,2516) สิ่งที่ผ่านไปบางทีเหมือนกับความฝัน จำได้บ้าง หลงลืมบ้างสลับๆ กันไป     

ประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมากกว่า 20 ปีนั้น สิ่งที่ผมนำมาใช้กลับเป็นสิ่งที่ผมได้รับด้วยความบังเอิญ หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเป็นความกรุณาของอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งอยู่ที่หอชาย  และยังจำได้ไม่ลืมจนถึงทุกวันนี้ เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งสมัยอยู่ชั้นปี หนึ่งที่ ม. บูรพา ผมซึ่งพักอาศัยอยู่ที่หอชาย 10 (ปัจจุบันถูกรื้อไปทำ Art Museum) ได้เดินไปหาแฝดรหัสที่ชื่อยุ้ย (รหัส 21)  เมื่อไปถึงหอชาย 5  ผมสังเกตเห็น อาจารย์ท่านหนึ่งบุคลิกจริงจัง เสียงดัง แต่งตัวดีกำลังพูดจาปราศรัยกับเด็กที่อยู่ในหอ 5 ซึ่งนิสิตในกลุ่มนั้นจะมียุ้ย พล เพื่อนร่วมคณะที่ผมจะไปหาอยู่ด้วย  ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรกับอาจารย์ท่านนั้นนัก  จึงเดินเข้าไปทักทายยุ้ย พล และพอเห็นว่ายุ้ยน่าจะคุยกับอาจารย์ท่านนั้นอีกนาน ก็เลยขอตัวไปซื้อกับข้าวที่โรงอาหาร และไม่ได้คุยธุระอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก

เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเจอหน้ายุ้ย สิ่งแรกที่ยุ้ยบอกกับผมก็คือ ไอ้เทียน เมื่อวานมึงไม่ได้ไหว้ อาจารย์สายัณห์ มึงรู้ไหม อาจารย์ฝากมาบอกมึงว่า บุคลิกมึงให้โทษ”  ผมฟังยุ้ยพูดจบก็ยังรู้สึกมึนงง เอ บุคลิกผมให้โทษอย่างไร ผมไม่เข้าใจ เพราะลองสำรวจตัวเองแล้วก็มั่นใจระดับหนึ่งว่าเราเป็นเด็กอ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมาคารวะ แล้วเราไม่รู้จักกับอาจารย์มาก่อน เราก็เลยไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร มึงไม่ต้องคิดมาก คราวหน้าเจออาจารย์สายัณห์ มึงสวัสดีอาจารย์ ไหว้ อาจารย์ไปเลย คนอื่น ๆ ก็โดนบุคลิกให้โทษเหมือนมึงกันมาแล้วทั้งนั้น กูก็ยังเคยโดนเลยยุ้ยทิ้งคำพูดให้ผมคิดและเดินจากไป  อีกหลายวันต่อมา ผมมีโอกาสไปที่หอชาย และก็บังเอิญเหลือเกินที่ผมได้พบ อาจารย์ สายัณห์พอดี คราวนี้สิ่งที่ผมทำก็คือ เดินเข้าไปไหว้ อาจารย์สายัณห์ พร้อมทั้งกล่าวว่า สวัสดีครับอาจารย์”  อาจารย์สายัณห์ยิ้มให้ พร้อมทั้งเอามือมาลูบหลัง กล่าวว่า ดี ๆ เป็นเด็ก ต้องรู้จักผู้ใหญ่ รู้จักไหว้ บุคลิกจะได้ดีน่ารัก ไม่ใช่บุคลิกให้โทษ  


ผมเข้าใจสิ่งที่อาจารย์สายัณห์บอกเมื่อได้เข้ามาทำงานแล้ว เพราะการเป็นน้องใหม่ในที่ทำงาน ซึ่งอายุน้อยกว่าทุกคน ทำให้ต้องไหว้ กล่าวสวัสดีกับทุกคนที่ได้รู้จักโดยไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจ เพราะได้รับการแนะนำตั้งแต่เรียนมาแล้ว  สิ่งเหล่านี้เองที่ผมมานึกย้อนหลังไปยังสมัยเรียนครั้งใด ก็ให้นึกขอบคุณอาจารย์สายัณห์ที่ได้ให้คำแนะนำดี ๆ ในวันนั้น เพราะถึงวันนี้การได้รู้จักกับคนในองค์กรที่ได้หยิบยื่นน้ำใจไมตรี เพราะเราไหว้สวัสดีผู้ใหญ่ทุกคนให้ความเคารพจึงทำให้เป็นเหมือนใบเบิกทางให้ทำงานราบรื่น มีความรู้สึกกับเพื่อร่วมงานเหมือนญาติพี่น้องกันตลอด 21 ปีที่ผ่านมา 

12 มิถุนายน 2558
ต้นจำปูนหลังบ้าน