วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2558

คุณหมอครับผมขอโทษ

ผมรีบพาแม่ไปที่คลินิกหมอตาท่านหนึ่งในตัวเมืองระยองตั้งแต่เช้า จะบอกว่าตัวเมืองก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะผมต้องขับรถออกจากตัวเมืองมานิดนึง  หากขับรถมาจากทางโรงพยาบาลระยองตัวคลินิกดังกล่าวตั้งอยู่ด้านซ้ายก่อนจะถึงสี่แยกเกาะกลอย  เมื่อมาถึงคลินิกซึ่งลักษณะเหมือนคลินิกตามต่างจังหวัดทั่ว ๆ ไปคือ มีเคาท์เตอร์รับลงทะเบียน  มีเก้าอี้ให้ผู้มารับบริการ  และด้านหลังจะเป็นห้องทำงานของคุณหมอ ผมก็รีบพาคุณแม่ไปลงชื่อเข้าคิวรับบริการ ด้วยความที่มาตั้งแต่เช้าเลยได้คิวลำดับต้น ๆ   สำหรับสาเหตุที่ผมพาแม่มาหาหมอ เพราะคุณแม่ไปโดนสารบางอย่างเข้าตาตั้งแต่วันวาน  และได้มาคลินิกนี้แล้ว แต่ด้วยเพราะปวดจนทนไม่ไหว และหมอนัดให้มาวันนี้ แม่เลยบอกให้ผมพาแม่มาแต่เช้าด้วยกลัวว่าจะเสียเวลาในการเข้าคิวรอ เพราะวันหยุดแบบนี้คนคงแน่นคลินิกเหมือนที่เคยเห็นจนชินตาตามลีนิกต่างจังหวัด

หลังจากลงชื่อเข้าคิวแล้ว ผมก็นั่งรอหมอกับแม่ เวลาผ่านไป ผ่านไป คนก็เริ่มทยอยเข้ามากันเรื่อย ๆ จนแทบจะล้นออกไปนอกคลินิก คนไข้รายแล้วรายเล่าถูกเรียกเข้าไปรับบริการ แต่ก็ยังไม่ถึงคิวแม่ผมเสียที หลังจากผ่านไป 2 ชม. ผมก็ตัดสินใจเดินเข้าไปถาม จนท. ผู้หญิงประจำคลินิกว่าทำไมแม่ผมถึงไม่ได้รับบริการเสียที  ขอโทษนะคะ ตอนนี้คนแน่นมากเลยค่ะ รอสักครู่นะคะ”  “แต่ผมรอมา ชม. แล้วนะ น้ำเสียงปนกับสีหน้าเจ้าอารมณ์ที่ภรรยามักจะกล่าวเตือนอยู่เสมอว่าน่ากลัวของผม แสดงออกไปให้ จนท.เห็นว่าเขาควรจะดูแลคิวให้เป็นไปตามลำดับ ไม่ใช่ถูกแซงคิวมาหลายคิวแล้ว พูดจบผมก็เดินมาบอกแม่ว่ารออีกไม่นาน เดี๋ยวหมอก็คงเรียกเข้าไปตรวจ แม่ผมเอามือกุมดวงตาที่เจ็บจนแทบจะทนไม่ไหว แต่ก็ไม่ได้บอกอะไร ทำได้เพียงตอบรับ เพราะคงเห็นหน้าลูกชายที่ไม่น่ามองคงเข้าใจอารมณ์ผมเป็นอย่างดี

หลังจากผ่านไปอีก 1 ชม.  แม่ผมก็ถูกเรียกเข้าไปตรวจโดยที่ผมไม่ได้เข้าไปด้วย เพราะทาง จนท.ให้นั่งรอ  จากนั้นไม่นานนัก จนท. ก็เดินมาตามผม โดยบอกว่าคุณหมอต้องการพบ ผมแปลกใจผสมกับกังวลว่าอาการอักเสบที่ดวงตาของแม่จะแย่กว่าที่คิด จนหมอต้องสอบถามหรือให้ข้อมูลผมเพิ่ม เมื่อพบหน้าคุณหมอ คุณหมอมีท่าทางโกรธและเริ่มกล่าวกับผมว่า นี่คุณ ทำไมคุณพาคุณแม่มาเวลานี้ ผมก็ให้เวลานัดไว้ชัดเจนตามใบนัดแล้วนี่ว่าเป็นเวลาบ่ายสาม  นี่คุณมาเข้าคิวตั้งแต่เช้า ยังไม่ถึงเวลานัดเลย คุณรู้ไหม อาการของแม่คุณน่ะ ต้องให้ยาจนครบ 24  ชม. แล้วถึงจะเปิดตาได้ ซึ่งหมอก็บอกแล้วว่าให้มาตรงเวลา ถ้าเกิดเปิดตามาตอนนี้ซึ่งยังไม่ครบ 24  ชม. มันจะส่งผลเสียต่อตาคนไข้ได้ ทำไมคุณไม่ดู”  คุณหมอเงียบไปสักพักแล้วกล่าวต่อไปว่า คุณรู้ไหม ผมมีคนไข้จำนวนมากที่ต้องดูแล ผมอุตส่าห์จัดคิว เพื่อจะได้ให้ทุกคนได้รับการรักษา แต่คุณก็ไม่เคยใส่ใจเลย จะให้ผมทำอย่างไร ผมนิ่งเงียบไปสักพัก พลางกล่าวประโยคหนึ่งออกมา คุณหมอครับ ผมขอโทษครับ ผมไม่ทราบจริง  ๆ เป็นความผิดของผมเองที่ไม่ดูเวลานัดให้ดี ผมขอโทษนะครับ คุณหมอมีท่าทีผ่อนปรนพลางบอกว่า ไม่เป็นไร เดี่ยวผมจะปิดตาให้คนไข้ก่อน และรอมาดูอาการอีกครั้งหนึ่งวันพรุ่งนี้ คุณหมอพูดจบผมก็เหมือนกับคนใจลอย เดินออกมานอกห้องตรวจ อารมณ์หงุดหงิดที่รอนานหายไป กลับกลายเป็นความรู้สึกผิดที่ไม่รอบคอบเข้ามาแทนที่   และนั่งรอแม่ด้านหน้าด้วยความรู้สึกที่แตกต่างออกไป 

ผมขับรถพาแม่กลับบ้าน โดยที่ไม่ได้กล่าวอะไรกับแม่อีก ได้แต่อธิบายให้แม่ฟังถึงการรักษา ในใจก็คิดไปถึงความทุ่มเทและเสียสละของคุณหมอ นานแล้วที่ผมไม่ได้เจอหมอที่เป็นหมอทั้งกายและใจแบบนี้   ผมขอโทษในความเขลาของผมอีกครั้งนะครับคุณหมอ ขอให้ประเทศไทยมีหมอแบบนี้มาก ๆ ด้วยเถิดนะ


28 มกราคม 2558
ต้นจำปูนหลังบ้าน