ฟุตบอลน้องพี่ Science Faculty 1993 ,
Burapha University
“เฮ้ย
เดี๋ยวรอบชิงบอลน้องพี่กับพวกปี 3 ใครจะลงเล่นบ้างวะ” ธานินตะโกนถามมา ท่ามกลางเพื่อน ๆ ร่วมรุ่น ที่กำลังแต่งตัว ทาน้ำมันมวย
นวดกล้ามเนื้อขา ใส่รองเท้าสตั๊ด นี่ใกล้จะเริ่มแข่งอยู่แล้ว
ผมยังไม่แน่ใจเลยว่า จะมีใครลงโม่แข้งกันบ้าง อ้อ เดี๋ยวจะงงกันไปใหญ่ พวกเราเป็นนิสิตของคณะวิทยาศาสตร์รุ่นที่
15 ที่มีชื่อเรียกเก๋ ๆ ว่า
Quarter Science พวกเราเริ่มเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยบูรพาในเดือนมิถุนายนปี พ.ศ.
2533 ซึ่งสมัยนั้นมหาวิทยาลัยที่เราเข้าเรียน
ยังใช้ชื่อเดิมว่ามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒวิทยาเขตบางแสนอยู่เลย โดยวันนี้เป็นวันชิงชนะเลิศฟุตบอลประเพณีน้องพี่ในคณะวิทยาศาสตร์ประจำปีการศึกษา
2536 ซึ่งปีนี้จัดขึ้นในวันศุกร์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม
และก็เพราะว่ามาเตะกันวันศุกร์สิ้นเดือนนี่แหละ เลยทำให้นักเตะฝีเท้าดีหลาย ๆ
คนเดินทางกลับบ้าน ทีมจึงขาดนักเตะไปค่อนข้างเยอะเหมือนกัน
ฟุตบอลน้องพี่ที่ผมพูดถึงนี้ เป็นประเพณีของคณะที่จะมีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างนักศึกษาชั้นปีที่
1,2,3 และ 4 ซึ่งใน 3 ปีที่ผ่านมานั้นทีมพวกเราไม่เคยได้แชมป์เลย
พูดแล้วก็เจ็บใจอย่าว่าแต่ได้แชมป์เลย แค่ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศก็ยังทำไม่ได้
ปีนี้จึงเป็นปีแรกของพวกเราที่เราผ่านมาได้ไกลขนาดนี้ แต่ก็มาเจอปัญหาอีกจนได้
พูดถึงรุ่นน้องที่เข้ามาเรียนรุ่นหลังเรา 1 ปี แต่ทำไมน้องรุ่นนี้มันทำไมเก่งจังวะ เมื่อปีก่อนหน้านี้
ทีมเราเกือบจะได้เข้าชิงชนะเลิศอยู่แล้วเชียว
ถ้าไม่เป็นเพราะนัดสุดท้ายเราไม่สามารถเอาชนะน้องมันได้ ทั้ง ๆ ที่ในแมตช์นั้น
ทีมเราเล่นได้ดีที่สุดนัดหนึ่งตั้งแต่เข้าเรียนมา ผมยังจำนัดนั้นได้ขึ้นใจ
ตอนต้นเกมส์ทีมเราขึ้นนำไปก่อน โดยวิโรจน์ แต่สุดท้ายก็มาถูกตีเสมอก่อนหมดเวลาไม่กี่อึดใจ
จนอดเข้าไปชิงชนะเลิศกับพี่ปี 4 ซะได้
ซึ่งสุดท้ายน้องปี 2 ก็ได้แชมป์ ปีนี้เลยเป็นเหมือนกับว่าพวกเราได้เล่นกับแชมป์เก่า
สำหรับการแข่งขันในรอบแรกที่ผ่านมา ทีมปี
4 ของเรา สามารถเอาชนะ ปี 1 กับปี
2 มาได้อย่างสบาย ๆ ทำให้แมตช์สุดท้ายที่ต้องดวลแข้งกับปี
3 ในรอบแรกเราไม่ขอลงแข่ง ขอเก็บตัวมาเล่นในรอบชิงเลย ขณะรวมทีมเสียงธานินทำให้ผมคิดถึงทีมขึ้นมาทันทีว่าทีมเรามีใครเล่นบ้าง ธานินกองกลางกัปปิตาโน่จากพนัสนิคม ชัชชัยกองหน้าตัวจบสกอร์เด็กแปดริ้ว
แล้วประตูล่ะเราจะเอาใครลง สุดท้ายหวยไปออกที่บีเอกแมต ส่วนธีรพลเอกฟู้ดส์ซายน์เล่นหลังคู่กับไก่เอก
สมพลเอกสถิติ ยุ้ยเอกเคมีแฝดรหัสของผมเล่นกลางรับ
ส่วนผมเล่นปีกด้านขวาคอยกระชากบอลไปให้ศูนย์หน้ายิง
พอจะฟอร์มทีมได้ครบก็ลงไปเล่นกัน
พอเริ่มเกมส์ก็เป็นไปตามฟอร์ม โดนทีมปี 3 บุกอยู่ข้างเดียว เดี๋ยวหลุด เดี๋ยวหลุด ดูธีรพลแล้วสงสารเลย บางจังหวะทั้งดึงทั้งทึ้งกองหน้าปี 3 ก็ยังเอาไม่อยู่ ดีนะที่บีผีเข้า เซฟไว้ได้หลายลูก ต้องบอกว่าเซฟมือเป็นลิงเลย จนกระทั่งกลาง ๆ ครึ่งแรกก็เป็นเรื่อง น้องปี 3 ได้ลูกเตะมุมทางด้านซ้าย ผมไปช่วยป้องกันประตูที่เสาแรก ลูกบอลถูกเตะออกมาจากมุมธง โด่งลอยข้ามหัวผมไป ตำแหน่งพอดีที่ไก่ สมพลจะสกัดได้ มันเสือกโหม่งวืด ลพน้องรหัสผมมันเลยทำประตูได้ น้องปี 3 นำไปแล้ว 1-0 ผมมองไปหาธีรพลเป็นไปตามคาด มันส่ายหัวดิกเลย เออไม่เป็นไร เอาใหม่ เอาใหม่ เอาใหม่ ผมตะโกนบอกมัน บอลถูกเขี่ยไปเล่นกันอีกไม่ถึง 10 นาที ตี๋เด็กปี 3 หลุดเข้าไปหวดต็ม ๆ หน้าประตู วินาทีนั้นต่อให้บีเหนียวแค่ไหนก็ไม่รอด ทีมน้องปี 3 ขึ้นนำห่างออกไปอีก 2-0 แล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่จบครึ่งแรกเลย ผมเอาบอลมาเขี่ยใหม่พร้อมชัชชัยที่ตอนนี้โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ดีไปกว่านี้ หลังจากนั้นทีมเราก็เล่นประคองไม่ให้เสียประตูเพิ่มอีกจนจบครึ่งแรก
ระหว่างพักครึ่ง พวกเราคุยกันอย่างซีเรียส “เฮ้ย
ทำไมบอลมาไม่ถึงกูกับชัชชัยเลยวะ ธานิน มึงน่ะคุมกลาง มีหน้าที่เอาบอลมาให้กองหน้า
เล่นตามเกมส์พวกเรา อย่าไปวิ่งไล่ตามพวกปี 3 ธีรพลมึงสกัดหนัก ๆ หน่อยสิวะ ลูกหลุดไปทีกูเสียว”
ผมบอกเพื่อนๆ อย่างซีเรียสเพราะไม่อยากแพ้จริงๆ เลย ให้ตายสิ ทั้งๆ
ที่ผมเองนั่นแหละล่นได้ห่วยแตกที่สุดในทีมแล้วในครึ่งแรก ธีรพลพลกับยุ้ยคู่หูจากหอ
5 ทำหน้ามุ่งมั่นจนผมอดหัวเราะไม่ได้ พอจะคลายบรรยากาศเครียด ๆ ไปได้ “เฮ้ยพวกเรายังไม่แพ้นะโว้ยมีเวลาอีก 45 นาทีให้แก้ตัว
ชัชชัยตะโกนบอกมา” ชัชชัยนี่ไม่ค่อยพูด
แต่พูดแต่ละทีมันจะออกแนวขำปนตลกทั้ง ๆ ที่มันพูดด้วยอารมณ์เครียดไม่ต่างจากผม “เออเว้ย มีอีก 45 นามีให้แก้ตัว
ยังไม่แพ้ซะหน่อยลงไปสู้ให้เต็มที่” ผมอดนึกถึงวันนั้นไม่ได้
เพราะมันเหมือนฉากหนึ่งในหนังจริง ๆ แต่ปัญหาคือพวกเราจะมีปัญญาไปเอา 2
ประตูที่เสียคืนมาได้ยังไงเพราะน้องปี 3 เล่นบอลกันเก่งมาก
เริ่มครึ่งหลังผมสังเกตว่าพวกเราทั้งทีมตั้งใจเล่นกันมากขึ้น ทุกคนช่วยกันไล่บอลไม่อืดเหมือนเก่า บอลเริ่มถูกลำเลียงมาถึงกองหน้าอย่างผมกับชัชชัยบ่อยขึ้น จะพูดให้ถูกคือธานินมันทำเกมได้มากขึ้นทั้งจ่ายทั้งสกัด ผมงี้ใจชื้นเลย เออแบบนี้สิวะเพื่อนกู ยังอดสงสัยมาจนถึงวันนี้ไม่ได้เลยว่าธานินไปได้กำลังใจมาจากไหน พอทุกคนเริ่มมั่นใจกันมากขึ้น สิ่งที่เหมือนจะเป็นไปได้ยากก็เริ่มง่ายขึ้น พอเล่นไปได้ซัก ธานินจ่ายบอลให้ชัชชัยบริเวณกรอบเขตโทษ ชัชชัยนี่มันกองหน้าอาชีพบังบอลจากกองหลังน้องปี 3 และตวัดยิงเต็มแรง ลูกบอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงามทีมเราตามมาเป็น 1-2 ถึงตอนนั้นใจพวกเรามาเป็นกอง พวกเราเล่นเหมือนบอลได้ใจ พาบอลเข้าบุกเข้าทำประตูเป็นระยะๆ จนจังหวะหนึ่งทีมน้องปี 3 ตัดบอลได้กลางสนามและจ่ายบอลขึ้นหน้าไปยังพื้นที่อันตรายของทีมเรา ฉิบหายแล้ว ผมรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้น เลยวิ่งสุดกำลังกลับไปยังหน้าประตูตัวเองเพื่อช่วยสกัดแต่ก็ช้าเกินไป ลูกบอลถูกส่งไปยังหน้าประตูทีมเราจนเข้ากรอบเขตโทษและกองหน้าน้องปี 3 ยิงอย่างแรง ผมตะโกนเรียกเพื่อนเสียงหลงเลยว่า “บี…” ผมทำได้แค่นั้นจริง ๆ เพราะธีรพลกับไก่ก็ไล่ไม่ทัน ลูกฟุตบอลพุ่งไปมุมประตูทางขวามือของบี วินาทีนั้นผมทำใจว่าเข้าแน่ เข้าแน่ แต่บีที่เป็นนายด่านรักษาประตูเหมือนเตรียมความพร้อมอยู่แล้ว มันพุ่งสุดเหยียดไปทางขวามือเพื่อปัดบอล ลูกฟุตบอลโดนแค่ปลายนิ้วจริง ๆ แต่ก็ดีพอที่จะทำให้บอลเปลี่ยนทางเลยออกไปทางเสาไกลไม่เข้าประตูและเสียเป็นแค่ลูกเตะมุม "เออเยี่ยมมากบีเพื่อนรัก" ผมตะโกนออกไปพร้อมทั้งเข้าไปช่วยป้องกันประตูจากลูกเตะมุม ถ้าเรายังไม่ได้ประตูตีเสมอ ก็อย่าเสียประตูเพิ่ม ผมท่องไว้ในใจและรอโอกาส หลังจากน้องปี 3 ได้บุกคราวนั้น เหมือนทีมน้องปี 3 กลับมาเป็นทีมเดิมในครึ่งแรกและเร่งทำประตูย้ำชัย แต่ทีมเราก็ไม่ยอมแพ้ช่วยกันสกัดกั้นเป็นพัลวันเวลาก็เหลืออีกไม่มาก ตัวผมวิ่งเป็นหมาบ้าเลย ทั้งไล่บอล ต่อบอล จนอีก 5 นาทีจะหมดเวลานั่นแหละ ชัชชัยได้บอลบริเวณกรอบเขตโทษ มันสับไกยิงเต็มเหนี่ยวอีกครั้ง บอลพุ่งตรงไปที่ประตู เข้าสิวะ ผมตะโกนออกมา แต่มันไม่ง่ายแบบนั้น ผู้รักษาประตูทีมน้องปี 3 ปัดบอลออกมาได้ ผมไม่รอช้า โอกาสนี้โอกาสเดียว วิ่งเข้าไปซ้ำบอลระยะ 1 หลาหน้าประตูอย่างเต็มตีน ส่งบอลเข้าไปกองที่ก้นตาข่าย เฮ้ย เสมอแล้วโว้ย ผมวิ่งดีใจกลับไปหาเพื่อน ๆ ในที่สุด ในที่สุดเราก็ทำได้จริง ๆ ตามตีเสมอหลังจากตามอยู่ 0-2 กลับมาเป็น 2-2 จนได้ หลังจากนั้นไม่นานกรรมการก็เป่าหมดเวลา ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก ยังเหลือแค่การเตะลูกโทษที่จุดโทษเพื่อหาผู้ชนะเท่านั้น ถึงวินาทีนี้อะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่หวั่นแล้ว “กูขอเตะเป็นคนแรกเลย กูมั่นใจ” ผมบอกกับเพื่อร่วมทีมทุกคนหลังจากรวมกันที่วงกลมกลางสนาม ผมจำได้ไม่หมดว่าใครออกไปเตะจุดโทษกับผมบ้าง แต่ที่แน่ๆ คือมีผมกับชัชชัยศูนย์หน้าจอมลีลาดาวซัลโวประจำทีม เมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมก็ก้าวออกไปยิงลูกที่จุดโทษเป็นคนแรก ระหว่างเดินไปมันตื่นเต้นพิกล บริเวณท้องน้อยมันหวิว ๆ ปั่นป่วนไปหมด ผมพยายามสงบนิ่ง มองประตูในใจผมเลือกมุมข้างซ้ายมือของผู้รักษาประตูไว้แล้ว จากนั้นก็วิ่งมายิงประตูโดยไม่ลังเล แต่ก่อนเท้าจะสัมผัสบอลผมเหลือบมองไปทางขวามือของผู้รักษาเพื่อหลอกสายตาแล้วก็ยิงไปทางซ้ายมือของผู้รักษาประตูตามที่ได้ตัดสินใจไว้แล้วซึ่งมันได้ผลผู้รักษาประตูหลงทางขยับตัวไปทางขวาของตัวเองบอลลอยเข้าไปกระทบตาข่ายเสียงดังฟึบอย่างสวยงาม เรานำแล้ว 1-0 ผมหันหลังกลับมาชูนิ้วชี้ขึ้นฟ้าแบบที่เคยเห็นนักเตะดังทำกันหลังยิงประตูได้ “กูทำได้แล้ว เหลือพวกมึงล่ะ” ผมพูดกับชัชชัยแล้วยิ้ม ๆ ความปั่นป่วนที่ท้องน้อยหายไปแล้ว หลังจากนั้นก็กลับมารอลุ้นเพื่อน ๆ ที่กลางสนาม แต่ละฝ่ายก็ผลัดกันออกไปยิงประตู ชัชชัยทำหน้าที่ไม่มีผิดพลาด น้องปี 3 ที่พลาดคือตี๋เด็กเอกฟิสิกส์คนที่ยิงประตูให้ทีมน้องปี 3 ในเกมจนนำทีมเราไป 2-0 นั่นแหละ ตี๋ซัดข้ามคานไปไกลลิบส่วนคนที่เหลือก็ไม่มีใครผิดพลาดอีกจนกระทั่งเตะกันครบทีมละ 5 คน แชมป์ฟุตบอลน้องพี่คณะวิทยาาสตร์ปี 2536 จึงตกเป็นของเราจนได้ บรรยากาศวันนั้นมันเบลอ ๆ ไปหมด ผมไปกอดกับธีรพล ทุกคนพูดคุยกันด้วยความสนุกสนาน บรรยากาศเป็นคนละเรื่องกับครึ่งแรกเลย มีการอำกันเละเทะเลยทั้งพวกที่มาให้กำลังใจ และพวกที่ลงเล่น สำหรับแมทช์นี้ผมยกให้ชัชชัยเป็น Man of the Match โดยมีธานินเป็นนักเตะปิดทองยอดเยี่ยม ผมพูดกับธีรพลหลังเกมส์ว่า เออ เราก็มีความทรงจำดี ๆ กับเกมการแข่งขันเหมือนกันแฮะ อย่างน้อยเราก็เคยเป็นแชมป์ในการแข่งขันฟุตบอลล่ะ และการแข่งขันนัดนี้ก็เป็นความทรงจำที่ดีของเราทั้งรุ่น Quarter Science โดยเฉพาะผม เพราะไม่ว่ามันจะผ่านไปกี่ปี กี่ปี ผมก็ยังจำได้เสมอ ๆ เหมือนกับว่าเกิดขึ้นเมื่อวานนี้นี่เอง
29 มิถุนายน 2554
ต้นจำปูนหลังบ้าน