วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

พ่อแม่รักลูกแค่ไหน


          วันอาทิตย์ที่ ก.พ. ผ่านมา น้องสาวผมโทรมาหาช่วงสาย ๆ  ด้วยความที่เพิ่งเข้านอนตอน  6 โมงเช้าเพราะติตตามบอลในลีกยุโรปตั้งแต่เวลาหนึ่งทุ่ม  45 นาที คืนวันเสาร์ จนคู่สุดท้ายที่บาร์เซโลน่าไล่ถล่ม แอตเลติโก้ มาดริดไป 3-0 ซึ่งจบเช้าวันอาทิตย์ เลยหลับไม่รู้เรื่องจนไม่ได้รับโทรศัพท์ ตื่นมา 10 โมงเช้าเห็น Miss Call เบอร์น้องสาวเข้ามา  4 ครั้งเลยโทรกลับไป  น้องสาวบอกข่าวว่า หลานสาวคนเดียวของผม (ก็ลูกสาวเค้านั่นแหละ) สามารถสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนอนุบาลระยองได้ น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก จากนั้นก็บรรยายถึงขั้นตอนการเตรียมตัว ส่งเสริมลูกสาวคนเดียว ให้มีความพร้อมสำหรับการสอบในครั้งนี้ ทั้งการเลือกหาซื้อหนังสือแบบทดสอบด้านเชาว์ปัญญาต่าง ๆ ซึ่งไปเสาะหาไกลถึง กทม. ระหว่างที่น้องสาวผมเข้ารับการรักษาตัวที่ โรงพยาบาล จุฬาฯ ระหว่างที่น้องสาวเล่าไปก็คงน้ำตาไหลไปตามประสาแม่ผู้รักลูกนั่นแหละ และมีอาการปลื้มในน้ำเสียงผสมเป็นระยะ ระยะ ฟังแล้วผมก็ได้แต่อมยิ้มกับตัวเอง แล้วก็รู้สึกดีใจไปกับสองแม่ลูก นี่ขนาดผมเป็นแค่ลุงนะ ผมยังอดรู้สึกดีใจไปกับน้องสาวไม่ได้เลย ถ้าผมเป็นพ่อน้องปูนเค้าเองล่ะผมจะดีใจขนาดไหน หลังจากการสนทนาจบลง ผมก็นั่งนึกถึงเรื่องนี้อยู่คนเดียว เลยมีคำถามเกิดขึ้นในใจว่า เอ ขนาดหลานผมประสบความสำเร็จขั้นต้น ผมก็ดีใจมากแล้ว แล้วถ้าผมประสบความสำเร็จบางเรื่องในวันที่ผ่าน  ๆ มาล่ะ พ่อแม่ผมเค้าจะดีใจแค่ไหนนะ

8 กุมภาพันธ์  2554
ต้นจำปูนหลังบ้าน