วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2550

พี่ชายที่จากไป

           ฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาในแต่ละวันช่วงปลายเดือนมิถุนายน  บ่งบอกให้รู้ว่า ฤดูกาลได้เริ่มผลัดเปลี่ยนเข้าสู่หน้าฝนแล้ว   หลาย ๆ คนบอกว่าฤดูฝนทำให้เกิดความเหงาและทำให้หลาย ๆ คนหดหู่เพราะอย่างนี้กระมังที่มิวสิควีดิโอของนักร้องต่าง ๆ  จึงมีสายฝนเป็นส่วนประกอบ เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกของตัวละครออกมาให้ผู้ชมรับรู้ ถึงความเศร้าของตัวละครได้เป็นอย่างดี   

สำหรับผมนั้น ทุกครั้งที่เห็นสายฝนมักจะนึกถึงงานบุญเข้าพรรษาซึ่งมีแต่อารมณ์ สนุกสนาน เบิกบาน  อบอวลไปด้วยความสุข จากการได้ทำบุญ อยู่กับครอบครัว มีการหล่อเทียนพรรษาที่วัด  และฟังเทศน์   และที่สำคัญ  ผมกับน้องสาวมักจะร้องขอแกมบังคับ ให้พี่ชายคนโต   ขับรถพาผมตระเวนไปบริจาคเทียนพรรษาตามวัดต่างๆในจังหวัดระยอง  จนถึงวันเข้าพรรษาในปี  2546   มีสิ่งหนึ่งที่ต่างไปซึ่งผมยังจำได้ดี วันที่ 2/07/2546  วันที่ไม่มีพี่ชายคนเก่งของผม อยู่ข้าง ๆเพื่อคอยให้น้อง ๆ อย่างผม หน่อย อ้อยได้อุ่นใจอยู่ต่อไป วันนี้ผมพาร่างการส่วนที่เหลือจากการปลงศพแล้วของพี่ชายผมไปลอยอังคารที่แม่น้ำระยองที่บริเวณเจดีย์กลางน้ำ  ครั้งหนึ่งเมื่อ 2 ปีก่อน   ผมกับอ้อยเคยขอร้องให้พี่ชายคนนี้  ขับรถพาผมกับอ้อยไปนมัสการพระเจดีย์กลางน้ำ พี่ชายผมก็แสนจะใจดีพาไปโดยไม่อิดออด ผมยังจำบรรยากาศวันนั้นได้ดี อากาศค่อนข้างครึ้มเพราะเย็นมากแล้ว เจดีย์กลางน้ำตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า   อาณาบริเวณรอบ ๆ องค์เจดีย์  รกไปด้วยหญ้าคาและวัชพืชชนิดต่าง ๆ เนื่องจากขาดการดูแลรักษาอย่างจริงจังจากหน่วยงานราชการ อะไรก็ไม่น่ากลัวเท่ากับว่าอาจจะมีสัตว์ร้ายจำพวกงูมาอาศัยอยู่ซึ่งจะก่อให้เกิดอันตรายกับคนที่มานมัสการองค์พระเจดีย์ได้ แต่ผมก็ไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใด เนื่องจากอุ่นใจที่พี่ชายผมมาด้วย หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้กลับไปอีกเลยจนกระทั่งวันนี้ วันที่ผมมีโอกาสพาพี่ชายของผมกลับไปที่เจดีย์กลางน้ำอีกครั้ง จะต่างกันก็เพียงแต่คนขับรถคือผม ส่วนน้องสาวที่นั่งข้าง ๆ ก็ถือห่ออังคาร,กระดูกของพี่ชาย และร้องไห้สะอึกสะอื้นมาตลอดทาง  เมื่อมาถึงองค์เจดีย์บริเวณรอบข้างเปลี่ยนไปเยอะมากจนผมจำแทบไม่ได้  รอบ ๆ องค์พระเจดีย์  มีการยกพื้น ปูพื้นด้วยอิฐสีแดง และดูสะอาด  แล้วก็ ดูสว่างโล่งไปหมด มีบันไดสำหรับต่อจากรอบ ๆ องค์พระเจดีย์ ทอดลงไปที่ลงไปที่ตัวแม่น้ำ  คุณพ่อกับคุณแม่ค่อย ๆ เอาเถ้าและกระดูกบางส่วนมาใส่น้ำหอม แล้วก็โปรยด้วยดอกไม้ จากนั้นก็เป็นผมซึ่งตอนนี้ถือว่าเป็นพี่คนโตของบ้าน น้องชายและน้องสาวกับญาติ ๆ ที่นำน้ำหอมและดอกไม้มาใส่กระดูกและเถ้าอังคาร  จากนั้นก็นำเถ้าอังคารของพี่ชายผมโปรยลงไปกับแม่น้ำ   ระหว่างที่โปรยเถ้าอังคารลงแม่น้ำไปนั้นุณแม่พูดด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ พร้อมทั้งขอให้พี่ชายกลับมาเกิดป็นลูกอีก ส่วนผมนั้นภายในจิตใจคิดไปถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมาระหว่างผมกับพี่ชาย  บางครั้งชีวิตผมก็แปลก สิ่งหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ ผมมาตลอด  ผมกลับไม่เห็นคุณค่า แต่พอสิ่งนั้นจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ผมกลับมานึกเสียดาย  วันนั้น ผมจำได้ว่า ความทรงจำที่ดี ๆ ระหว่างผมกับพี่ชายหลั่งไหลมาจากไหนไม่รู้  และทำให้ผมได้แต่เสียใจที่ไม่เคยแทรกเข้าไปในโลกของพี่ชายผมได้เลย 

หลังจากลับมาจากเจดีย์กลางน้ำแล้ว สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างตลอดกาลของผมคือ การพยายามค้นหาและรักษาช่วงเวลาที่ดี ๆ ระหว่างผมกับพ่อแม่ ผมกับเพื่อน ๆ ผมกับน้อง ๆ หรือแม้แต่ผมกับสิ่งของ  ซึ่งถ้าผมพยายามให้ความสำคัญกับสิ่งนั้น ณ เวลานั้นแล้ว หากสูญเสียสิ่งนั้นไป ผมจะได้ไม่เสียใจ แต่จะมีความสุขทุกครั้ง ที่ได้นึกถึงช่วงเวลาดี ๆ ที่ผมได้ร่วมสร้างกับทุกคน  หากบางคนมองว่าบางสิ่งที่ผ่านไปไม่สำคัญเพราะมูลค่ามันน้อยไปเนื้อหาสาระที่ไม่ได้ความหรือมันดูไม่สมเหตุสมผล   แต่กับผมนั้นสิ่งที่จะบอกว่าอะไรจะสำคัญหรือไม่สำคัญคือใจของผมนั่นเอง  ซึ่งมันยังเป็นอยู่เสมอมา และยังหวังว่าจะตลอดไป 

            29 มิถุนายน  2550
ต้นจำปูนหลังบ้าน